วันนี้ (1 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ชลาชล ประธานสมาคมวิชาชีพช่างผมไทย ลงพื้นที่ร้านเสริมสวยและร้านตัดผม เพื่อให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการถึงแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร
อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า แนวทางปฏิบัติสำคัญ คือผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ พนักงาน และผู้เกี่ยวข้องกับงานบริการทุกคน ต้องให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดและปลอดภัย โดยให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแก่พนักงานทุกคนที่ให้บริการในร้านตัดผม ร้านเสริมสวย, ให้พนักงานทุกคน สวมเสื้อคลุม หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และสวม Face sheld ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน, ให้พนักงานทุกคนล้างมือบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังให้บริการลูกค้าคนต่อไป รวมทั้งห้ามให้บริการอื่นๆ ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับใบหน้าของลูกค้า หรือถ้าใช้ใบมีดโกน ให้เปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง
ลูกค้าควรนัดคิวการตัดผมเสริมสวยล่วงหน้า
ส่วนภายในร้าน ควรจัดให้มีจุดล้างมือ หรือเจลแอลกอฮอล์ สำหรับบริการลูกค้า ที่บริเวณประตูทางเข้า หรือเคาน์เตอร์ชำระเงินทุกจุดอย่างเพียงพอ รวมทั้งระบบระบายอากาศที่ดี มีการไหลของอากาศภายในอาคารที่ได้มาตรฐาน และทำความสะอาดในบริเวณพื้นที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ เช่น เก้าอี้ตัดผม เตียงสระผม ที่นั่งรอรับบริการ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง และปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย ไม่ใช้ของใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าขนหนู ผ้าคลุมตัว ส่วนอุปกรณ์ในการเสริมสวย เช่น หวี แปรง กรรไกร ต้องทำความสะอาดทุกครั้งก่อนและหลังให้บริการกับลูกค้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช่นกัน
สำหรับผู้มารับบริการนั้น ควรนัดคิวการตัดผมเสริมสวยล่วงหน้า เพื่อลดเวลาในการนั่งรอและอยู่ในสถานที่ร่วมกัน และเมื่อเข้ามาในร้านเสริมสวย ต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ให้มีการล้างมือหรือใช้เจลแอลกออล์ทุกครั้ง เมื่อเข้ามาในร้านและหลังชำระเงิน
สมศักดิ์ ชลาชล
ประธานสมาคมวิชาชีพช่างผมไทย กล่าวว่า เห็นด้วยในหลักการดังกล่าว พร้อมประสานให้ร้านตัดผมกว่า 100,000 ร้านที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันนี้ โดยเฉพาะการให้ลูกค้าลงทะเบียนนัดหมายจองคิวล่วงหน้า เพื่อลดการแออัดในร้าน