วานนี้ (1 พ.ค.2563) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถาณการณ์ฉุกเฉินด้านคมนาคมและการขนส่งทั่วราชอาณาจักร ที่ 1/2563 เรื่องข้อปฏิบัติในการขนส่งสินค้าทางถนนในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างช่วงเวลาห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน
โดยที่นายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เม.ย.2563 กำหนดหนดห้ามบุคคลใดออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น.ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยกําหนดข้อยกเว้นในการปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าบางประเภท และข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 10 เม.ย.2563 กําหนดข้อยกเว้นในกํารปฏิบัติ ตามข้อกําหนด (ฉบับที่ 2) ให้ชัดเจนขึ้น เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ประชาชน
ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามมกฎหมายดังกล่าวปลัดกระทรวงคมนา คมในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไข สถานการณ์ฉุก เฉินด้านคมนาคม และการขนส่งทั่วราชจักร ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ฉบับที่11/2563 ลงวันที่ 10 เม.ย. 2563 เรื่องจัดโครงสร้างของศนูย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่มเติม จึงออกคําสั่งกําหนดข้อปฏิบัติในการขนส่งสินค้าทางถนนในสถานการณ์ฉุกเฉินระหว่างช่วงเวลําห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้บุคคลที่มีความจำเป็นในการขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน ได้แก่ ผู้ขนส่งอาหาร ยา เวช ภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตกานเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณียภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ หนังสือพิมพ์ หรือสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก จัดเตรียมใบอนุญาตขับรถ บัตรประจําตัวประชําชน บัตรประจําตัวพนักงานหรือหนังสือรับรองการทำงาน และเอก สารเกี่ยวกับสินค้าแบบแนบท้ายสั่งนี้ เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชกำหนด รวมถึงการยอมรับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย
ข้อ 2 การขนส่งสินค้าข้อ 1 ให้หมายความรวมถึงการขนส่งเที่ยวเปล่าหรือ ตู้สินค้าเปล่า ในกรณีเดินทางไปรับสินค้า และเดินทางงกลับภายหลังเสร็จสิ้น การขนส่งสินค้าเรียบร้อยแล้วด้วย โดยให้ผู้ขนส่งจัดเตรียมเอกสารตามข้อ 1 ไว้แสดงต่อเจ้าหน้าที่เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ต้ังแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยน แปลงเป็นอย่างอื่น