วิวัฒนาการหนังตัวอย่าง

การเข้าโรงหนังยังเป็นโอกาสที่จะได้เห็นหนังตัวอย่างใหม่ๆ ซึ่งหลายปีมานี้มีการพัฒนารูปแบบนำเสนอไม่น้อยกว่าวงการภาพยนตร์เอง

หนังตัวอย่าง Star Wars ภาค 1-3 สร้างความประทับใจแก่ผู้ชมตั้งแต่หนังยังไม่เข้าโรง จากการตัดต่อและกระตุ้นอารมณ์ด้วยเสียงและดนตรีประกอบ โดยหนังตัวอย่างถูกใช้ครั้งแรกเพื่อโปรโมทละครเพลงบรอดเวย์ในปี 1913 ก่อนจะนำมาใช้ในวงการภาพยนตร์ หนังตัวอย่างส่วนใหญ่ในยุคแรกจะผลิตโดยบริษัทโฆษณา National Screen Service ที่สไตล์ซ้ำๆ ด้วยการใช้ตัวหนังสือบอกเล่าเนื้อหาและเปิดเผยหัวใจของหนัง จนในยุค 60 ที่ผู้กำกับเลือกสร้างหนังตัวอย่างเอง จนเป็นที่มาของผลงานที่คลาสสิกไม่แพ้ตัวหนัง เช่น ปริศนาใน Dr. Strangelove ของสแตนลีย์ คูบริก หรือ การเยี่ยมชมบ้านในกองถ่ายของ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก ใน Psycho
  

  
สมัยก่อนแฟนหนังจะคุ้นเคยกับเสียงบรรยายอันเยือกเย็นเพื่อเน้นความสนใจ โดยมี ดอน ลาฟอนเทน ฉายาเสียงแห่งพระเจ้า เป็นต้นแบบเสียง ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ดนตรีประกอบกระตุ้นผู้ชมแทน โดยแต่ละค่ายจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลการเลือกเพลงประกอบในหนังตัวอย่าง บ่อยครั้งที่หนังตัวอย่างออกมาก่อนที่ภาพยนตร์จะสร้างเสร็จเป็นปี ซึ่งจำเป็นต้องตัดต่อฟุตเตจหยาบๆ จากฟิล์มที่มีความยาวหลายสิบชั่วโมงให้เหลือความยาวเพียง 2,880 เฟรมต่อชิ้น จนบางครั้งมีการถ่ายทำฉากที่ไม่อยู่ในหนังขึ้นใหม่เพื่อใช้เป็นหนังตัวอย่างโดยเฉพาะ
 
วันนี้อุตสาหกรรมหนังตัวอย่างมีมูลค่าถึง 200 ร้อยล้านเหรียญ และมีการมอบรางวัลให้กับคนที่ผลิตผลงานเหล่านี้ เช่นงานแจกรางวัล Key Art Awards หรืองาน Golden Trailer Awards ที่จัดมาเป็นปีที่ 12 ติดต่อกัน แม้สมาคมภาพยนตร์แห่งอเมริกาจะมีกฎให้ค่ายหนังมีเวลาในการปล่อยหนังตัวอย่างไม่เกิน 2.30 นาที แต่ในอนาคต ความไร้พรมแดนของอินเทอร์เน็ตจะทำให้ข้อจำกัดดังกล่าวค่อยๆ หมดไป เช่นการมาถึงของ i-Trailers เว็บไซต์หนังตัวอย่างที่รวบรวมข้อมูลที่แฟนๆ สามารถโต้ตอบระหว่างรับชมและติดตามหนังตัวอย่างได้นานนับชั่วโมง