วันนี้ (5 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจเข้าบุกตรวจค้นภายในอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นที่ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 27 พบต้นกัญชามากกว่า 300 ต้น ถูกเพาะปลูกในโรงเรือนขนาดเล็กภายในอาคาร หลังขยายผลจากการจับผู้ต้องหาลอบจำหน่ายส่งให้ลูกค้า
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยผลการตรวจค้นเบื้องต้นว่า ต้นกัญชาที่พบเป็นสายพันธุ์ต่างประเทศ มีจำนวน 317 ต้น โดยภายในมีการสร้างโรงเรือนขนาดเล็ก พร้อมเครื่องควบคุมอุณหภูมิ
ส่วนการจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลมาจากการจับกุมขบวนการลักลอบขายกัญชาผ่านทางกลุ่มไลน์ชื่อ "Heaven Herb" และจัดส่งให้ลูกค้าแบบเดลิเวอรี่ โดยจะมีกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่จัดส่งสินค้า แต่งตัวเลียนแบบพนักงานเดลิเวอรี่ของบริษัทชื่อดังหลายแห่ง ทำทีมารับสินค้าและไปส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อ แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อนพร้อมของกลางกัญชา 4 กล่อง จนนำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 12 คน โดยเป็นคนไทย 11 คน และชายชาวฮ่องกงอีก 1 คน ซึ่งชาวฮ่องกงเป็นผู้ลักลอบนำกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศที่มีการซื้อขายถูกกฎหมายในต่างประเทศ เข้ามาขายในประเทศไทย
ตำรวจเข้าขยายผลจับชายชาวฮ่องกงได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รวมของกลางกัญชาอัดแห้งที่ยึดได้จากขบวนการ ทั้งหมด 7.5 กิโลกรัม, เห็ดเมา 1 กิโลกรัม, และต้นกัญชาสด 327 ต้น
ผลการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ลักลอบขายกัญชาผ่านทางออนไลน์ลักษณะนี้มาแล้ว 3 ปี โดยในอาคารแห่งนี้สามารถผลิตกัญชาแห้งได้ประมาณ 10 กิโลกรัมต่อเดือน และทำเงินได้เดือนละหลายล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 หรือกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยผิดกฎหมาย และผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ตำรวจจะขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ ส่วนกรณีการขนส่งและซื้อขายยาเสพติดผ่านพัสดุภัณฑ์ ต้องตรวจสอบว่านอกจากกลุ่มผู้ต้องหาที่แต่งกายเลียนแบบพนักงานเดลิเวอรี่แล้ว ยังมีพนักงานจริงเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ พร้อมประสานขอความร่วมมือบริษัทเอกชนและไปรษณีย์ไทย วางมาตรการป้องกันการลักลอบแอบอ้างขนส่งยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายผ่านทางพัสดุภัณฑ์ด้วย