วันนี้ (15 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า
"มี"เคส เลขที่ออก...เบอร์ประจำตัวของ Cristiano Ronaldo!!!
ยังดีที่เป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศทั้งหมด คนที่ติดเชื้อนั้นไม่มีอาการ ขอให้หายไวไวนะครับ
นี่จึงเป็นเรื่องย้ำเตือนให้เราทราบว่าระบบกักตัว เพื่อตรวจและเฝ้าสังเกตอาการนั้นสำคัญมาก และจำเป็นต้องทำไปอย่างต่อเนื่องระยะยาวครับ”
ศบค.สรุป 7 คนไทยกลับจากปากีสถานป่วย
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่า พบมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 7 คน เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน และอยู่ในสถานที่กักตัวที่รัฐ ทำให้วันนี้มีผู้ป่วยสะสม 3,025 คน หายป่วยกลับบ้าน 2,854 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 115 คน เสียชีวิตรวม 56 คน
ผู้ป่วยใหม่ทั้งหมดตรวจพบจากการคัดกรองในสถานที่ที่รัฐกำหนด (state quarantine) แบ่งเป็นชาย 6 คน หญิง 1 คน อายุ 17-31 ปี เดินทางกลับมาจากประเทศปากีสถานเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา และเข้ากักตัว
ขณะที่ยังพบว่าคนไทยกลับจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากประเทศต้นทาง คืออินโดนีเซีย 65 คน ปากีสถาน 9 คน อังกฤษ 2 คน คาซักสถาน 2 คน
ความน่าสนใจคือการกลับมาจากด่านชายแดน 5,000 คน แต่มีผู้ป่วยยืนยัน 1 คน แต่ทางอากาศ 194 คนยืนยัน 3 คน
คง 3 มาตรการ-ผ่อนปรน 4 กิจการ
โฆษกศบค.กล่าวอีกว่า สำหรับผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ. ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธาน ศบค. กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ ข้าราชการและผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมบูรณาการและทำให้เห็นตัวเลขติดเชื้อเป็นศูนย์ในสัปดาห์นี้ โดยมีข้อสรุปที่จะคลายล็อกผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมสีเขียวเพิ่มเติม ซึ่งเป็นกิจการที่มีความเสี่ยงแพร่เชื้อปานกลาง และมีความจำเป็นต่อเป็นต่อดำรงชีวิต และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมสูง
การตัดสินใจเข้าสู่มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ต้องผ่อนคลายให้เศรษฐกิจดำเนินไปได้ แต่ยังห่วงเรื่องการแพร่ระบาดระลอก 2
ทั้งนี้ มาตรการผ่อนปรนให้มีหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลางเป็นประธาน โดยตรงประเมินสถานการณ์เป็นระยะ โดยใช้ข้อมูลต่างๆ เพื่อจัดทำแนว ทางและร่างข้อกำหนดเพิ่มเติม คำนึงถึงปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก
ห้างสรรพสินค้า เปิด 17 พ.ค.นี้
นอกจากนี้ นายกฯ สั่งการให้คณะกรรมการเฉพาะกิจด้านกฎหมาย ศึกษา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กับกฎหมายปกติ เพื่อพิจารณาขยายเวลา หรือยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่ยังคงไว้ คือ 1. การเดินทางเข้าราชอาณาจักร ทั้งทางบก น้ำ อากาศ ยังคงมาตรการเดิม 2.ปรับระยะเวลาการห้ามออกนอกเคหสถานเป็นเวลา 23.00 น.-04.00 น. และ 3.งดหรือชะลอการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด
ส่วนกิจการหรือกิจกรรมที่ผ่อนปรนมี 4 กลุ่มหลัก โดยจะเริ่มวันที่ 17 พ.ค.นี้ คือ ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้ปิดบริการเวลา 20.00 น. เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค ร้านหนังสือ แต่ยังปิดโรงภาพยนตร์ สวนน้ำ ฟิตเนส โรงเรียนกวดวิชา กลุ่มร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในอาคารสำนักงาน โรงอาหาร หรือศูนย์อาหาร ภายในหน่วยงาน
สำหรับกลุ่มร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งอื่น ๆ เช่นร้านวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไทย แต่ต้องควบคุมการเข้าออก และเว้นระยะห่าง และกิจกรรมอื่นๆ เปิดเพิ่มห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม ต้องจำกัดจำนวนคนและติดตามตัวได้ ห้องสมุดสาธารณะ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กองถ่ายภาพยนต์และวีดีทัศน์ รวมกลุ่มไม่เกิน 50 คน
การเปิดห้างวันแรก 17 พ.ค.นี้ จะใช้แพลตฟอร์มเช็กอินเข้า-ออก เพื่อรับทราบความหนาแน่นและข้อมูลลูกค้า ขณะนี้พร้อมใช้แล้ว โดยห้างต้องประเมินมาตรการ 5 ข้อหลัก เช่น ทำความสะอาด ลดความหนาแน่น รวมทั้งกำหนดจำนวนคนเข้าห้างเองตามพื้นที่ขอความร่วมมือทุกกิจการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั่วโลกเสียชีวิต COVID-19 แตะ 3 แสนคน
นายกฯ เตรียมเคาะผ่อนปรนระยะที่ 2 เปิดห้าง 11 โมงถึง 3 ทุ่ม