วันนี้ (19 พ.ค.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Moderna บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ เปิดเผยผลการทดลองใช้วัคซีนกับอาสาสมัคร 8 คนซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนคนละ 2 โดส เริ่มต้นเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ทุกคนปลอดภัย ไม่มีอันตรายหรือผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน และวัคซีนที่อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านไวรัส COVID-19
อาสาสมัครทดลองวัคซีน 8 คนมีอายุระหว่าง 18-55 ปี มีสุขภาพแข็งแรงดี ถูกนำแอนติบอดีไปทดสอบกับเซลล์ที่ติดเชื้อ COVID-19 ในห้องปฏิบัติการ ผลปรากฏว่าแอนติบอดีของอาสามัครสามารถยับยั้งการขยายตัวของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ และระดับของ neutralizing antibodies หรือ ระดับภูมิคุ้มกันต่อต้านไวรัส COVID-19 เท่ากับภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย COVID-19 ที่รักษาหายแล้ว และมีอาสาสมัครบางคนที่ภูมิคุ้มกันสูงกว่า อีกด้วย
นิวยอร์คไทมส์รายงานว่า แม้ผลการทดลองวัคซีนกับมนุษย์ เป็นข่าวดีแต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ได้ผลดีกระทั่งหน่วยงานกำกับยาและเภสัชภัณฑ์อนุมัติให้ใช้เป็นการทั่วไป และจำเป็นต้องมีการทดลองกับอาสาสมัครจำนวนมาก และเทคโนโลยีของ Moderna รวมทั้งวัสดุชีวภาพจากไวรัส ที่มีชื่อเรียกว่า mRNA ก็เป็นนวัตกรรม อีกทั้งยังไม่เคยได้รับอนุมัติวัคซีนแม้แต่ตัวเดียว
ข้อมูลการทดสอบวัคซีนในมนุษย์ครั้งนี้ไม่มีการเผยแพร่สาธารณะ แต่รายงานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ แล้ว และโดยปรกติ FDA ไม่ให้ความเห็นใด ๆ ในระหว่างการวิจัยและพัฒนา
Moderna แถลงว่า การทดสอบวัคซีนในมนุษย์ระยะที่สองซึ่งมีอาสาสมัคร 600 คน จะเริ่มขึ้นในไม่ช้า และการทดสอบระยะที่สามกับอาสาสมัครนับพันคนจะเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2563
ถ้าผลการทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ จะมีการผลิตวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 แบบอุตสาหกรรมและมีวัคซีนแพร่หลายได้ในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปี 2021
ดร.ทาล ซัคส์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของ Moderna เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว
นอกจาก Moderna แล้วตอนนี้มีทั้งบริษัทผู้ผลิตยาและมหาวิทยาลัยหลายแห่งกำลังอยู่ในกระบวนการทดสอบวัคซีนกับมนุษย์ เช่น Pfizer และบริษัทพันธมิตรในเยอรมนี ชื่อ BioNTech บริษัทสัญชาติจีนชื่อ CanSino และมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดร่วมมือกับ AstraZeneca