วันนี้ (19 พ.ค.2563) ครูโรงเรียนบ้านท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่ติดตามการเรียนทางไกลของเด็กนักเรียนถึงบ้าน พบปัญหานักเรียนบางคนไม่มีโทรทัศน์ และไม่มีอินเทอร์เน็ต เพราะฐานะทางบ้านยากจน ทำให้ขาดโอกาสได้เรียนซึ่งครูได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการให้เด็กไปเรียนบ้านเพื่อนที่มีโทรทัศน์
จากการสอบถามเด็กนักเรียน ในพื้นที่ อ.วังสะพุง จ.เลย ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 3 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ส่วนใหญ่ชอบเรียนในห้องเรียนกับครูมากกว่า เพราะนักเรียนมีสมาธิ และสอบถามได้เมื่อไม่เข้าใจ
ส่วนที่ จ.ชุมพร ครอบครัวของนางจรรยา สุดภักดี ชาวตำบลขันเงิน อ.หลังสวน อยู่กัน 5 คน พ่อ แม่ และลูกอีก 3 คน ในกระท่อมหลังคามุงสังกะสีกลางสวนปาล์ม ทำให้การเรียนสำหรับเด็ก 3 คน ในครอบครัวนี้ จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะลำพังให้มีปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตแต่ละวัน ก็ยากลำบากแล้ว ซึ่งผู้บริหารโรงเรียนในตำบลขันเงิน ระบุว่า ยังมีชาวบ้านอีกหลายครอบครัว ที่ขาดความพร้อมในการเรียนออนไลน์ เนื่องจากมีฐานะยากจน
ฝ่ายนโยบายส่งสัญญาณปรับเนื้อหาตอบโจทย์นักเรียน
ขณะที่นักการศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือ ยืนยันว่า ครูยังเป็นฟันเฟื่องสำคัญ ในการกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กๆ การพัฒนาทักษะในการจัดการเรียนรู้ให้กับครูเป็นเรื่องเร่งด่วน ที่รัฐบาลและสังคมไทย ต้องเตรียมทั้งก่อนและหลังเปิดเทอม
ส่วนฝ่ายนโยบายก็ต้องส่งสัญญาณให้ชัดว่า แต่ละโรงเรียน แต่ละท้องถิ่นจะสามารถบริหารจัดการการศึกษา แบบยืดหยุ่นและผสมผสานได้ โดยคำนึงถึงผลการเรียนรู้ของเด็ก และความปลอดภัยด้านสาธารณสุข สอดคล้องกับข้อเสนอของเลขาธิการ สมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทย ที่ระบุว่า วิกฤตครั้งนี้คือ โอกาสของการบริหารจัดการการศึกษาแบบมีส่วนร่วม