วันนี้ (24 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีหญิงวัย 29 ปี ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายลูกสาวและลูกชาย เพื่อหวังขอรับเงินบริจาค และยังถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงจากการขายสินค้าออนไลน์
เพื่อนบ้านให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง โดยยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เคยเห็นมีการทำร้ายเด็กและอยากขอความเป็นธรรมให้กับพ่อและแม่ผู้ต้องหา ส่วนเรื่องคดีความให้เป็นไปตามกฎหมาย
เพื่อนบ้านคนดังกล่าวยังให้ข้อมูลอีกว่า ส่วนตัวทราบมาโดยตลอดเกี่ยวกับการขอรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเด็ก และยังยืนยันอีกว่าเด็กหญิงวัย 4 ขวบที่เสียชีวิตไปนั้น มีอาการป่วยและร่างกายอ่อนแอจริง เช่นเดียวกับเด็กชายวัย 2 ขวบก็มีร่างกายไม่แข็งแรงเช่นกัน แต่ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดว่าเด็กทั้ง 2 คนเป็นลูกของผู้ต้องหาจริงหรือไม่
ขณะที่ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม มอบหมายให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ 4 กองปราบปราม รับผิดชอบทีมสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นมีผู้เสียหายหลงเชื่อจ่ายเงินสั่งสินค้าและบริจาคเงินช่วยเหลือกว่า 3,000 คน มีการโอนเงินกว่า 8,000 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ตำรวจแจ้งข้อหา รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และฉ้อโกงประชาชน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อหาฉ้อโกงฯ แต่ปฏิเสธไม่ได้มีส่วนทำให้เด็กทั้ง 2 คนป่วยหนักและเสียชีวิต
คดีนี้ตำรวจร่วมสืบสวนมานานกว่า 2 เดือน จนพบข้อมูลต้องสงสัยในการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเด็กให้ผู้อื่นสงสาร และอ้างว่าลูกป่วยด้วยโรคที่ไม่เคยพบในไทย จึงไปสอบถามกับแพทย์ที่รักษาก็พบว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งแพทย์ระบุว่า เด็กป่วยจากการได้รับสารพิษสะสม ส่วนจะเป็นสารพิษชนิดใด ยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ และมีรายงานว่า ตำรวจกองปราบปรามจะมีการแถลงความคืบหน้าคดีในวันนี้ (24 พ.ค.) เวลา 11.00 น.
แม่แท้ๆ ด.ญ.วัย 4 ขวบ ระบุถูกหลอกเปิดบัญชี
ตำรวจติดต่อไปที่แม่แท้ๆ ของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ซึ่งแม่แท้ๆ ชี้แจงว่า ช่วงที่เด็กหญิงวัย 4 ขวบป่วยหนัก แม่อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นแม่บุญธรรม ได้ขอให้ตัวเองไปเปิดบัญชี โดยอ้างว่าจะนำบัญชีธนาคารใช้เป็นหลักฐานในการทำประกันชีวิต แต่แม่วัย 29 ปีกลับนำบัญชีดังกล่าวไปใช้เสริมความน่าเชื่อถือในการขอรับบริจาคและการขายของออนไลน์แทน
จากข้อมูลดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกเงินบริจาคส่วนหนึ่ง แจ้งความเอาผิดกับเจ้าของบัญชี คือแม่แท้ๆ ของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการบริจาคและหลอกขายของออนไลน์