เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2563 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยแผนการห้ามชาวต่างชาติอีก 11 ประเทศ เดินทางเข้าญี่ปุ่น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งคำสั่งใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (27 พ.ค.) เป็นต้นไป
คำสั่งดังกล่าวระบุว่า พลเรือนที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นและมีประวัติเดินทางหรือพำนักอยู่ในอัฟกานิสถาน อาร์เจนตินา บังกลาเทศ เอลซัลวาดอร์ กานา กินี อินเดีย คีร์กีซสถาน ปากีสถาน แอฟริกาใต้ และทาจิกิสถาน ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ
การเพิ่มรายชื่อประเทศต้องห้ามครั้งนี้ทำให้คำสั่งห้ามเข้าประเทศของญี่ปุ่นครอบคลุม 111 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งรวมถึงจีน เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และประเทศในยุโรปทั้งหมด
ขณะที่พลเรือนชาวญี่ปุ่นสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้ แต่ต้องเข้ารับการตรวจโรค COVID-19 และกักกันตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อดูว่าจะมีอาการป่วย เช่น มีไข้สูงและไอ หรือไม่
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นจะคงไว้ซึ่งมาตรการควบคุมชายแดนอื่นๆ จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.2563 ซึ่งรวมถึงการระงับวีซ่าและการกักกันผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคนเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ "ญี่ปุ่น" ประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ
สหรัฐฯ ห้ามชาวต่างชาติจาก "บราซิล" เข้าประเทศ เริ่ม 28 พ.ค.นี้
"อาเบะ" ประกาศเพิ่ม 14 ประเทศห้ามเข้าญี่ปุ่น เริ่ม 29 เม.ย.นี้