วันนี้ (27 พ.ค.2563) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของนายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ได้เขียนบทความชื่นชมประเทศไทย มีความมั่นคง น่าเชื่อถือ และ ปลอดภัย ในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงเหมาะแก่การลงทุน เผยแพร่ผ่านสื่อทั้งในและต่างประเทศ
อีกทั้งสหรัฐฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือในช่วงฟื้นฟูหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ทั้งยังให้ความช่วยเหลือทั้งเรื่อง เงิน อุปกรณ์ทางการแพทย์ ผ่านองค์กร USAID ด้วย ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ได้สอบถามเรื่องการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน โดยยืนยันถึงความจำเป็นคือต้องการให้การป้องกันการแพร่ระบาด มีมาตรฐานปฎิบัติเดียวกันทั้งประเทศ ลดปัญหาจากการบังคับกฎหมายหลายฉบับทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น
การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล เป็นฤดูฝน หากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี จะอนุญาตให้สายการบินในประเทศ เปิดทำการบินได้ตามปกติในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
นายวิษณุ ยังได้ชี้แจงกรณีปัญหาหนี้สินการบินไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า หลังศาลล้มละลายกลาง รับคำร้องขอฟื้นฟูแล้ว ถือเป็นการเริ่มต้นการใช้กฎหมายล้มละลาย มาตรา 90/12 การพักการชำระหนี้โดยผลของกฎหมาย หรือ Automatic Stay เจ้าหนี้ในประเทศ ไม่มีสิทธิฟ้อง หรือ ทวงหนี้ ทำได้เพียงแค่ยื่นขอชำระหนี้เท่านั้น
ส่วนหนี้สินต่างประเทศ จะต้องยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ เป็นเรื่องของบริษัทจะพิจารณาดำเนินการ โดยการประกอบธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้ โดยคณะกรรมการบริหารของบริษัทเป็นผู้ดำเนินการ แต่เรื่องการฟื้นฟูจะเป็นผู้ทำแผน และ ผู้บริหารแผน ดำเนินการตามลำดับ
สำหรับขั้นตอนต่อไปในประเทศ หลังศาลรับคำร้อง ไปจนถึงดำเนินการได้ตามแผนฟื้นฟู คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน การฟื้นฟูจะใช้เวลา 5 ปี ตามกฎหมาย ทั้งยังสามารถขยายเวลาได้ ที่ผ่านมา มีบริษัทเข้าสู่การฟื้นฟู 52 แห่ง ประสบความสำเร็จประมาณ 20 แห่ง ล้มละลาย 20 แห่ง อยู่ระหว่างฟื้นฟูกว่า 10ปี 7 แห่ง
ส่วนการบินไทยหากฟื้นฟูแล้วจะกลับเข้ามาเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่าไม่สามารถตอบได้ แต่ท้ายที่สุดเชื่อว่า การฟื้นฟูจะไม่ทันภายในปีนี้