วันนี้ (2 มิ.ย.2563) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเตรียมพิจารณาข้อเสนอจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เพื่อรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงาน จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยสรุปความคืบหน้า และสถานการณ์การก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแนวโน้มลดลง ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมกับภาครัฐ และให้การสนับสนุนมากขึ้นในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ ตลอดจนการปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ และด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีภาวะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในพื้นที่ จึงต้องมีความระมัดระวัง และปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ที่ประชุมได้พิจารณา และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความจำเป็นที่จะต้องขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไปอีก 3 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. - 19 ก.ย.2563 ยกเว้น อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ,อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก อ.สุคิริน, อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส โดยจะนำเข้าขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้
ขณะที่ พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฎิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลการประเมินพบว่าประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ ยังขอให้คงประกาศสถานการณ์ไว้ เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีความต่อเนื่อง ในการรักษาความสงบเรียบร้อย และการพัฒนาพื้นที่ให้มีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ควบคู่กันไป ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้ปฏิบัติงานด้วยความไม่ประมาท เน้นงานการข่าวเชิงรุก และการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ ในการประเมินผลงานจะต้องให้ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมทั้งขอบคุณ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยกันปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ ตลอดจนขอบคุณประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ และปฏิบัติตามข้อกำหนดในการป้องกัน COVID-19 ของรัฐบาลด้วยดี