วันนี้ (14 มิ.ย.2563) นายมูซา จันทร์ขาว นายกสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในอียิปต์มีคนไทยติดเชื้อ COVID-19 แล้ว 38 คน แบ่งเป็นนักศึกษา 28 คน และแรงงานไทย 10 คน ล่าสุด มีนักศึกษารักษาหายแล้ว 1 คน
สำหรับนักศึกษาที่ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 13 คน ซึ่งพักอยู่หอพักนานาชาติในมหาวิทยาลัยได้รับการดูแลจากทางหอพักให้ไปกักตัวในตึกสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อโดยเฉพาะและได้รับการดูแลจากทีมแพทย์แล้ว ส่วนนักศึกษาที่เหลือนั้นพักอยู่นอกหอพักนานาชาติ จะต้องกักตัวในที่พักของตนเองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์
สมาคมฯ ได้สร้างกลุ่มผ่านแอปพลิเคชันเมสเซนเจอร์โดยภายในกลุ่มจะมีนักศึกษาไทย นักศึกษาแพทย์ และแพทย์ที่ไทยให้คำแนะนำเบื้องต้น หากมีนักศึกษาแจ้งอาการป่วย
นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้ประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร หวังว่าคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศจะสามารถเดินทางกลับได้เร็วๆ นี้ เนื่องจากหลายคนกังวลเกี่ยวกับสุขภาพและมาตรการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการดำเนินชีวิต ซึ่งแม้ว่านักศึกษาไทยทุกคนจะปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์อย่างเคร่งครัด แต่พลเมืองอียิปต์ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ตื่นตัวกับการป้องกัน COVID-19 แม้ทางการจะมีโทษปรับ 8,000 บาท หากประชาชนไม่สวมหน้ากากอนามัย
สำหรับสถิติการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2563 เวลา 18.00 น. สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวมทั้งสิ้น 41,303 คน โดยรักษาหายแล้ว 11,108 คน และเสียชีวิต 1,422 คน ส่วนสาธารณรัฐซูดาน มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวมทั้งสิ้น 6,879 คน โดยรักษาหายแล้ว 2,416 คน และเสียชีวิต 433 คน ขณะที่สาธารณรัฐจิบูตี มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวมทั้งสิ้น 4,441 คน โดยรักษาหายแล้ว 2,823 คน และเสียชีวิต 38 คน และรัฐเอริเทรีย มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวมทั้งสิ้น 41 คน โดยรักษาหายแล้ว 39 คน ทั้งนี้ ยังไม่มีกำหนดอย่างเป็นทางการว่าสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ จะเปิดสนามบินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเมื่อใด
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร กำลังจัดเตรียมเที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติมเส้นทางกรุงไคโร – กรุงเทพฯ และเส้นทางกรุงคาร์ทูม-กรุงเทพและจะประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับเที่ยวบินและการลงทะเบียนในเร็วๆ นี้ พร้อมขอให้คนไทยในอียิปต์ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของทางการอย่างเคร่งครัดและหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านให้มากที่สุด พร้อมทั้งเตือนให้คนไทยทุกคนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวันเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจ ทำให้มีการอาชญากรรมเพิ่มขึ้น แต่หากมีเหตุจำเป็นสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน ของสถานเอกอัครราชทูตฯ +201 0194 -014243