วันนี้ (18 มิ.ย.2563) นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เปิดเผยว่า สรส.ได้ออกแถลงการณ์เรื่องความจริงที่ถูกปกปิด การทุจริตคือวิกฤตการบินไทย ตลอดระยะเวลาประกอบธุรกิจของการบินไทยในอดีต แทบไม่ประสบปัญหาการขาดทุน มีกำไรมาโดยตลอด ส่งเงินเข้ารัฐเฉลี่ยแต่ละปีเกือบ 10,000 ล้านบาท แต่มาประสบปัญหาตั้งแต่ปี 2556-2562 และยังเห็นว่าหน่วยธุรกิจหลายอย่างของการบินไทย เช่น ฝ่ายครัวการบิน ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายบริการภาคพื้น และฝ่ายซ่อมบำรุง มีความสามารถในการดำเนินงานที่มีผลกำไร
แต่เมื่อพิจารณางบดุลแล้วพบว่า การบินไทยมีภาระหนี้สินจำนวนมาก มีปัญหาหลายเรื่อง เช่น สมรรถนะความสามารถของคณะกรรมการบริษัทที่เกี่ยวกับธุรกิจการบิน การซื้อเครื่องบินจำนวนมาก การอนุมัติว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา แผนปฏิรูปที่ล้มเหลวกับบริษัทลูก Low Cost การประกันราคาน้ำมัน การจำหน่ายตั๋วผ่านเอเยนต์ การบริหารจัดการภายในที่เป็นปัญหา และการละเมิดสภาพการจ้างโดยผู้บริหารระดับสูงของการบินไทย
นายสาวิทย์ กล่าวอีกว่า การฟื้นฟูกิจการต้องเข้าใจสภาพปัญหาที่แท้จริง มิฉะนั้นจะแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด และการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการต้องมีส่วนร่วมของพนักงานและสหภาพแรงงาน เพราะเป็นผู้ปฏิบัติที่สามารถให้ความเห็นของสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในหน้างานได้เป็นอย่างดี ซึ่ง สรส.ไม่เชื่อมั่นในแผนฟื้นฟูการบินไทยของฝ่ายบริหารที่นำเสนอให้ศาลล้มละลาย
สรส. จึงได้ตั้งคณะทำงานฟื้นฟูการบินไทย โดยมีภารกิจ 3 ด้านคือ การทำความจริงให้ปรากฏว่าการล้มละลายของบริษัทการบินไทยแท้จริงเกิดจากอะไร การจัดทำแผนฟื้นฟูการบินไทยตามแนวทาง สรส. เพื่อเสนอต่อรัฐบาล และคณะทำงานฟื้นฟูการบินไทยที่รัฐบาลและผู้ถือหุ้นแต่งตั้ง พร้อมเสนอต่อสังคมให้มีส่วนร่วมติดตามตรวจสอบ โดยข้อมูลทั้งหมดคาดว่าจะจัดทำให้แล้วเสร็จในช่วงเดือน ก.ค.ก่อนที่ศาลล้มละลายกลางจะพิจารณาในวันที่ 17 ส.ค.นี้ รวมถึงมีการขับเคลื่อนเพื่อให้สังคมรับทราบความจริง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้การบินไทยกลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติ
สิ่งที่กำลังทำไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เพราะทำโดยพนักงานธรรมดา เคยเคลื่อนไหวและบอกแก่สาธารณชนมาโดยตลอด สิ่งที่เรานำเสนอเป็นความจริง และเห็นว่าที่ผ่านมาการบินไทยมีปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชันและการบริหารจัดการที่ล้มเหลว ดังนั้นการทำแผนฟื้นฟูให้สำเร็จและยั่งยืน ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุดก่อนจัดทำแผนฟื้นฟู