วันนี้ (18 มิ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อสังคมออนไลน์ชื่นชมเกี่ยวกับกรณี นพ.ธวัชชัย กลิ่นสุคนธ์ ศัลยแพทย์หลอดเลือดและปลูกถ่ายไต ได้เปิดเผยเรื่องราวการผ่าตัดรับไตบริจาค ผ่านเฟซบุ๊ก Tawatchai Klinsukon โดยระบุว่า เดินทางอย่างยากลำบาก นั่งรถตู้ฝ่าสายฝนไป-กลับ กทม.-สุรินทร์ นับสิบชั่วโมง เพื่อการผ่าตัดรับไตบริจาค เพียง 55 นาที
ผ่าตัดบ่อยจนชำนาญ สามารถผ่าตัดรับไตบริจาค (Kidney procurement) เสร็จโดยใช้หมอเพียงคนเดียว และพยาบาลช่วยผ่าตัด ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงแล้ว ส่วนการผ่าตัดอวัยวะเพื่อนำไปปลูกถ่ายต่อ (Kidney procurement) นั้น ควรใช้เวลาน้อยที่สุดให้มีช่วงเวลาที่อวัยวะขาดเลือด (ischemic time) สั้นที่สุด เพื่อผลการปลูกถ่ายที่ดี
นอกจากความเร็วแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่า คือ ความแม่นยำ ทำผ่าตัดโดยไม่ให้อวัยวะนั้น บาดเจ็บหรือฉีกขาด จึงต้องฝึกฝนให้ชำนาญ ทั้งความเร็วและความแม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ซึ่งปัจจุบัน การผ่าตัดรับไตบริจาคทั้งหมด รวมถึงการผ่าตัดปลูกถ่ายไตในประเทศไทย จะได้รับการจัดสรรจาก สภากาชาดไทย ทั้งหมดเพื่อความยุติธรรมของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่รอคอยอวัยวะอยู่ทั้งใน รพ.รัฐฯ และ เอกชน
ทั้งนี้ ทางกาชาดจะจัดสรรอวัยวะ (ไต) ที่เหมาะสมและมีผลการตรวจเนื้อเยื่อที่เข้ากันได้กับผู้ป่วยแต่ละราย โดยทีมส่วนกลางจะมีทั้งหมด 16 โรงพยาบาลทั้งภาครัฐฯ และเอกชน ที่จะออกเดินทางไปผ่าตัดรับไตบริจาคในนามของ สภากาชาด โดยจัดลำดับตามคิวหมุนเวียนกันไป แต่หาก โรงพยาบาลไหน ไม่พร้อมออกด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ ก็จะเลื่อนคิวถัดๆ ไปออกเดินทางแทน เพื่อที่จะได้ไม่เสียโอกาสในการได้มาซึ่งอวัยวะ (ไต) และ ไม่เสียความตั้งใจอันแน่วแน่ของผู้บริจาคอวัยวะ ที่ได้ตั้งใจมอบอวัยวะ (หัวใจ ไต ตับ ดวงตา) ให้แก่ผู้อื่นในวาระสุดท้ายแห่งชีวิต นับเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ที่หาสิ่งใดเปรียบไม่ได้
ผมในฐานะศัลยแพทย์ปลูกถ่ายไต จึงตั้งใจที่จะออกเดินทางไปผ่าตัดรับไตบริจาคทุกครั้งที่ทำได้ไม่ว่าหนทาง การเดินทางจะยากลำบากเพียงใด หากสามารถออกเดินทางได้ก็จะไม่ปฏิเสธเลย เพราะรู้ดีว่ามีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมากมายที่รอคอยโอกาสที่จะได้รับการปลูกถ่ายไตนี้อยู่