วันนี้ (23 มิ.ย.2563) เฟซบุ๊ก Etoriw Sibaht ได้เผยแพร่ข้อความ ระบุว่า "เตือนภัยนักวิ่ง วางขวดน้ำในสวนสาธารณะ อาจตายเพราะโดนวางยา" โดยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.30 น. หลังจากไปซ้อมวิ่งตามปรกติที่สวนสาธารณะศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ติดกับเอสพลานาด แคราย เมื่อไปถึงก็ได้ซื้อน้ำดื่มเจ้าประจำที่เป็นรถเร่ใกล้ห้องน้ำของสวนฯ เมื่อซื้อเสร็จก็เอาขวดน้ำมาวางบริเวณสนามตะกร้อ ซึ่งเป็นที่ยืดเหยียดประจำก่อนซ้อมวิ่ง โดยในวันนั้นยังไม่ได้เปิดขวดน้ำขึ้นมาดื่ม เมื่อวอร์มเสร็จก็ออกวิ่งตามปรกติ ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง เพราะสวนฯ จะปิดตอน 21.00 น.
เมื่อวิ่งเสร็จสวนก็เริ่มปิดไฟ หลังจากนั้นจึงเดินไปหยิบน้ำที่ "ยังไม่เปิดขวด" มาเปิดขวดแล้วยกดื่ม ปรากฏว่า รสชาติน้ำขวดดังกล่าว ซึ่งเป็นยี่ห้อประจำที่ซื้อดื่มนั้นรสชาติเฝื่อนๆ แปลกไปจากเดิม ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดขวด แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จึงดื่มไปเพียง 1 ใน 3 ของขวด แล้วเดินกลับไปที่มอเตอร์ไซค์ เพื่อที่จะขี่กลับไปที่ออฟฟิศ โดยนำน้ำขวดนั้นติดมือกลับด้วย
เมื่อกลับถึงออฟฟิศจึงรู้สึกถึงอาการแปลกๆ ของร่ายกาย โดยเริ่มเห็นภาพหมุน หายใจติดขัด เหมือนจะอาเจียนอีก 2-3 ครั้ง และกำลังจะหมดสติ จนรู้สึกว่าแย่แล้ว จึงให้น้องๆ ที่ออฟฟิศขับรถตู้ไปส่งที่แผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลรามาฯ
เบื้องต้น แพทย์วินิจฉัยว่า อาจจะ STORKE จึงได้ทำการทดสอบอาการ และส่งเข้า CT SCAN โดยในตอนนั้น อาการของผมเหมือนคนเป็น STORKE คือ ลิ้นแข็ง ทรงตัวไม่ได้ ไม่มีเรี่ยวแรง และเริ่มพูดไม่ชัดขึ้นเรื่อยๆ แต่ปากไม่เบี้ยว จนกระทั่งหมดสติไป ช่วงสายวันต่อมาแพทย์ได้ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ซึ่งวินิจฉัยเบื้องต้นว่า อาจจะไปเสพสารบางอย่างมา จนมีอาการคล้าย STORKE แต่แพทย์ก็สงสัยว่า ทำไมถึงฟื้นตัวเร็วผิดปรกติจึงให้นอนค้างที่ห้องเฝ้าระวังฉุกเฉินต่ออีกคืน เพื่อรอดูอาการ
ต่อมาแพทย์แจ้งว่า อาการที่เป็นไม่เรียกว่าเป็น STORKE แต่ลักษณะคล้ายกัน ซึ่งอาจต้องรอผลตรวจที่ชัดเจน ซึ่งใช้เวลาพอสมควร โดยสรุปว่า อาจเป็นเพราะได้รับสารพิษบางอย่างเข้าร่างกาย หรือไม่ก็ร่างกายสร้างสารพิษขึ้นมาจนทำให้เกิดปฏิกิริยาในร่างกาย ทำให้นึกถึงรสชาติของน้ำที่ดื่ม และได้คุยกันกับแฟนเรื่องอาจถูกวางยาในน้ำ หลังจากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยไม่มีอาการว่าเป็นผู้ป่วยที่ไม่แข็งแรงแต่อย่างใด จึงเดินทางเข้าไปที่ออฟฟิศ เพื่อเอามอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้นำกลับบ้าน โดยเมื่อถึงออฟฟิศแล้ว สิ่งแรกที่ทำคือ
ผมเอาน้ำขวดนั้นที่ยังมีน้ำเหลืออยู่ในขวดอีกครึ่งหนึ่ง ปิดฝา และคว่ำขวดดูก็ปรากฏว่า มีน้ำไหลออกมาจากรูเล็กๆ บริเวณฝาขวดจึงแน่ใจในทันทีแล้วว่า ผมโดนวางยา ที่สวนฯ ศาลากลางนนท์แน่นอน
ภาพ : Etoriw Sibaht
จากนั้นจึงไปปรึกษาตำรวจที่ สน.รัตนาธิเบศร์ เพื่อแจ้งความทางตำรวจก็ได้บอกว่า ให้รอผลตรวจเลือดออกมาอย่างเป็นทางการก่อน ถึงจะรับแจ้งความ สาเหตุที่โพสต์เรื่องนี้ก่อนที่จะมีหลักฐานยืนยันชัดเจนนั้น เนื่องจากผลการตรวจเลือด และใบรับรองแพทย์ และกังวลว่า ถ้าโพสต์ช้าไป ก็กลัวว่าจะมีเพื่อนนักวิ่งตกเป็นผู้เสียหายของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในคราบนักวิ่ง
อยากเตือนให้ระวังกันไว้ อย่าชะล่าใจวางขวดน้ำของตัวเองไว้ แล้ววิ่งไปโดยไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะมีพวกโจรมันจ้องวางยา แล้วปลดทรัพย์เรา ลองคิดดู นาฬิกาของนักวิ่งกับสมาร์ทโฟนก็ราคาหลายหมื่นแล้ว พวกนี้เอาไปขายต่อแค่ 4,000 - 5,000 ก็เอาแล้ว
ยิ่งถ้าเห็นเพื่อนนักวิ่งเกิดอาการหมดสติ เหมือนคนโดนวางยา ก็ให้สงสัยคนที่เข้าไปช่วยเหลือก่อนเลยกลุ่มแรก เพราะพวกนี้คงเฝ้าจนเจอผู้เสียหาย แล้วทำทีเป็นพลเมืองดี ดังนั้น ถ้าพบเห็นก็ให้ถ่ายคลิปิวีดิโอเก็บไว้ก่อน หรือถ้าเป็นคนพบคนแรกก็สังเกตรอบข้างให้ดี ก่อนแสดงความบริสุทธิ์ใจเข้าช่วยเหลือ เมื่อพวกนี้ได้ยิน เดี๋ยวก็เดินหนีห่างไปเอง นั้นแหละที่เราจะเห็นพวกนั้น
ตอนนี้รอแค่หลักฐานซึ่งเป็นเอกสารทางการมายืนยัน และจะอัพเดทให้ดูอีกครั้งครับ ระวังกันด้วยนะครับ เพื่อนๆ นักวิ่งทั้งหลาย เพราะวันนั้น ถ้าผมดื่มจนหมดขวดก็อาจถึงตาย และไม่มีโอกาสได้มาเตือนภัยเพื่อนๆ นักวิ่ง