วันนี้ (23 มิ.ย.2563) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายอนุชา นาคาศัย นายสุชาติ ชมกลิ่น นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นต้น ได้รวมตัวกันเดินทางไปเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตร ให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคฯ โดย พล.อ.ประวิตร ได้ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้อาคารสำนักงานและห้องประชุมของมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นประธานมูลนิธินั้น
แต่กลับมีการใช้สถานที่ของมูลนิธิฯ มาเจรจาความและดำเนินกิจกรรมทางการเมืองดังกล่าวและหลายต่อหลายครั้งในการใช้สถานที่ดังกล่าวเจรจาความทางการเมืองหรือกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งตกเป็นข่าวในสื่อสารมวลชนมาอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นที่สงสัยว่าถือว่าเป็นการขัดต่อข้อบังคับของมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในข้อที่ 2.7 ว่าด้วยวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ ที่กำหนดว่า “ไม่ดําเนินการเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ประการใด” ตามที่นายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร (ปลัดกระทรวงมหาดไทย) ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2559 หรือไม่
อีกทั้งสํานักงานของมูลนิธิ ตั้งอยู่ที่บ้านพักสวัสดิการ ทบ. ใน ร.1 รอ. พหลโยธินซอย 8 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ของกองทัพ เป็นพื้นที่ของทางราชการทหาร เป็นการขัดหรือแย้งต่อ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 และเข้าข่ายความผิดตามระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยประมวลจริยธรรม 2551 ข้อ 5.5 ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อนด้วยหรือไม่
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงขอเรียกร้องไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิตามกฎหมาย และ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการกระทำดังกล่าวของมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับที่ห้ามเกี่ยวข้องกับการเมืองและผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมหรือไม่ เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานของมูลนิธิต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป