วันนี้ (2 ก.ค.63) นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่ กสม.ได้มอบหมายให้สำนักงาน กสม. มีหนังสือ ด่วนที่สุด ลงวันที่ 8 มิ.ย.63 ขอความร่วมมือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและทำความจริงให้ปรากฏ กรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมืองชาวไทย หายไปจากหน้าอาคารที่พักในกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา นั้น ต่อมาปลัดกระทรวงการต่างประเทศ (ก.ต.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 26 มิ.ย.63 แจ้งกลับมายัง สำนักงาน กสม.ดังต่อไปนี้
1.ทันทีที่ได้รับทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า นายวันเฉลิม ถูกลักพาตัวในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563 เวลาประมาณ 18.00 น. ในวันรุ่งขึ้น (5 มิถุนายน 2563) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาเพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามตัวนายวันเฉลิม
2.เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.63 น.ส.สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ (พี่สาวของนายวันเฉลิม) และตัวแทนของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (Thai Lawyer for Human Rights : TLHR) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามและให้ความช่วยเหลือนายวันเฉลิม รวมทั้งได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนายวันเฉลิมเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ตามนัยข้อ 1. ให้ น.ส.สิตานันท์ และผู้แทน TLHR ทราบ
3.เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.63 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือนายวันเฉลิม โดยได้แจ้งการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ตามข้อ 1. และข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้
3.1) รัฐมนตรีฯ ไม่เคยได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่านายวันเฉลิมเป็นบุคคลที่อาจเป็นภัยต่อประเทศในด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ
3.2) รัฐมนตรีฯ ได้ตอบคำถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นบทบาทของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (Office of the United Nation High Commissioner for Refugees: UNHCR) ว่า นายวันเฉลิมไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยตามนิยามของ UNHCR ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการตรวจสอบแล้วพบว่า สภาพความเป็นอยู่และปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ของนายวันเฉลิมไม่ได้เข้าข่ายการเป็นผู้ลี้ภัยของ UNHCR โดยเชื่อว่า UNHCR รับทราบและติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี UNHCR ต้องรอการชี้แจงและข้อมูลจากทางการกัมพูชาเช่นเดียวกัน
4.เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.63 เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้เข้าพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา (รัฐมนตรีช่วยว่าการคนที่อาวุโสที่สุด) ซึ่งได้มอบหนังสือให้แก่เอกอัครราชทูตฯ โดยมีสาระสำคัญว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายวันเฉลิมมีประวัติการเดินทางเข้า - ออกกัมพูชาหลายครั้งระหว่างปี 2557 – 2558 ครั้งล่าสุดเดินทางเข้ามากัมพูชาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.58 และได้รับการต่ออายุการตรวจลงตราถึงวันที่ 31 ธ.ค.60 ทั้งนี้ ทางการกัมพูชายังไม่สามารถยืนยันเหตุการณ์นี้ได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง
5.เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.63 กระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือตอบกลับหนังสือร้องเรียนของ น.ส.สิตานันท์ แจ้งผลการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศตามข้อ 4
6.เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.63 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้นำส่งข้อมูลทะเบียนรถยนต์ที่สันนิษฐานว่าเป็นรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ตามข้อมูลในหนังสือของ น.ส.สิตานันท์ ให้แก่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป
7.สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้ติดตามความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางการกัมพูชาเป็นระยะ ๆ จนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่า ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด
“ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม กสม. ยังคงติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวต่อไปอย่างใกล้ชิด และหวังว่าจะได้รับทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อประสานการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนให้แก่นายวันเฉลิมและครอบครัวต่อไป” นายวัส กล่าว