เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา นายทัศนัย สายแสงจันทร์ เจ้าพนักงานชั่งตวงวัดอาวุโส สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 2-5 สุรินทร์ พร้อมด้วยนายธเรศ ยศอาลัย นักวิชาการชั่งตวงวัดชำนาญการ กองกำกับและตรวจสอบเครื่องชั่ง, นายจักรพล จงใจภักดิ์ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานพาณิชย์ จ.บุรีรัมย์ ผู้แทนจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด, ป้องกันจังหวัด, กอ.รมน.
และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือ น.ส.พรพรรณ จริตรัมย์ อายุ 39 ปี เกษตรกร ต.สะแกโพรง อ.เมืองบุรีรัมย์ หลังจากได้รับร้องเรียนว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพชายและหญิง รวม 6 คน ที่ตระเวนรับซื้อหมูเป็นตามหมู่บ้าน โกงน้ำหนักหมูทำให้สูญเงินกว่า 80,000 บาท
แก๊งมิจฉาชีพอินบ็อกมาขอรับซื้อหมู
จากการสอบถาม น.ส.พรพรรณ ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.25 น. ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ทราบชื่อภายหลัง คือนายณัฐนนท์ ติดต่อมาหา น.ส.พรพรรณ ผ่านทางอินบ็อกส่วนตัว เพื่อขอทำการรับซื้อหมู 29 ตัว ราคากิโลกรัมละ 70 บาท ต่อมาวันที่ 20 มิ.ย. เวลาประมาณ 11.00 น. แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว ซึ่งเป็นชาย 5 คน หญิง 1 คน ได้เดินทางมายังบ้าน น.ส.พรพรรณ เพื่อทำการซื้อหมู ซึ่งขณะนั้นหมูอายุ 3 เดือน 20 วัน ต้องได้น้ำหนักไม่ต่ำกว่าตัวละ 90-100 กิโลกรัม
เมื่อทำการชั่งน้ำหนักเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลับพบว่าน้ำหนักของหมูเหลือเพียงตัวละประมาณ 52 กิโลกรัม เนื่องจากแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวได้ใช้เทคนิคกลโกงตาชั่งด้วยการใช้เท้างัดเครื่องชั่งในระหว่างทำการชั่งน้ำหนักหมู และระหว่างที่ชั่งก็จะเบี่ยงเบนความสนใจทั้งทำแบบรีบร้อนให้ดูเหมือนยุ่งวุ่นวาย ไม่ให้ผู้เสียหายสังเกตขณะชั่ง
ทักท้วงแล้วไม่เป็นผล-ได้แต่ถ่ายคลิป
ผู้เสียหายพยายามทักท้วงแล้ว แต่แก๊งดังกล่าวก็ไม่สนใจ น.ส.พรพรรณ ก็ได้แต่ถ่ายคลิปไว้เท่านั้น แต่สุดท้าย แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวก็จ่ายเงินให้ น.ส.พรพรรณ 104,000 บาท ซึ่งน้อยกว่าจำนวนเงินที่ควรจะได้ถึง 80,000 บาท จากนั้นทั้งเจ้าหน้าที่ และผู้เสียหายได้นำคลิปหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หนองสองห้อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวแก๊งดังกล่าวมาดำเนินคดี
ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาจะขายหมูแค่ครั้งละ 3-4 ตัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้น แต่คราวนี้อยากได้เงินเป็นก้อน จึงตกลงขายถึงขนาดลงทุนไปซื้อเครื่องชั่งมาเอง เพราะกลัวจะถูกโกง แต่สุดท้ายก็ถูกแก๊งมิจฉาชีพใช้เทคนิคกลโกงน้ำหนักจนต้องสูญเงินที่ควรจะได้ถึง 80,000 บาท
พบแก๊งมิจฉาชีพเคยถูกจับคดีโกงตาชั่ง
นายธเรศ กล่าวว่า พฤติกรรมของแก๊งดังกล่าวเข้าข่ายความผิด "กระทำการใดๆ เพื่อให้เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการให้คำรับรองตามมาตรา 30 แสดงน้ำหนัก ปริมาตร ปริมาณ หรือหน่วยใดๆ ผิดไปจากที่ได้รับการตรวจสอบความเที่ยงกับแบบมาตราเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดตามมาตรา 26 เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 75/1 มาตรา 75 มาตรา 76(2) แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวงวัด (ฉบับที่3) พ.ศ.2557 มีโทษทั้งจำและปรับ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่าหนึ่งในแก๊งดังกล่าว เคยถูกจับกุมดำเนินคดีโกงตาชั่งรับซื้อหมูในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว สภ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ยังอยู่ระหว่างรอลงอาญาแต่ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก