วันนี้(6 ก.ค.2563) เพจเฟซบุ๊ก หมอปอขอเล่าเรื่องโรคจิตเวช โพสต์ข้อความว่า ในฐานะจิตแพทย์ หมอฟันธงให้ได้เลยว่า การเห็นผีนั้น “มีอยู่จริง” และการพูดคุยกับผีได้ “ก็มีอยู่จริง” แต่ปัญหาคือส่วนใหญ่แล้วผีที่เห็นที่คุยด้วยนั้น “ไม่ได้มีอยู่จริง” ในชีวิตการเป็นจิตแพทย์นั้นทุกคนจะได้เจอคนไข้หลายคนมากมายที่มาด้วยการเห็นสิ่งที่ไม่มีจริง และได้ยินเสียงที่ไม่มีจริง ซึ่งเรียกกันง่ายๆ ว่ามีหูแว่ว และภาพหลอน
แต่ทราบหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วการมีหูแว่วภาพหลอน คือการทำงานของสมองที่ผิดปกติอย่างหนึ่ง สรุปง่ายๆก็คือการเห็นผี และได้ยินเสียงผี คืออาการผิดปกติทางสมองนั่นเอง
ปัจจุบันเราทราบอย่างชัดเจนแล้วว่าอาการดังกล่าว คือความผิดปกติของการทำงานของสารสื่อประสาทที่เรียกว่าสารโดปามีน (dopamine) ที่มีการทำงานมากผิดปกติในบริเวณสมองที่เรียกว่า Mesolimbic pathway นั่นเอง และรู้อีกหรือไม่ว่าเราไล่ผีเหล่านี้ได้ด้วย แต่ไม่ใช่ไล่ด้วยการทำบุญกรวดน้ำ การเข้าวัดทำพิธีปัดเป่า การจ้างหมอผี หรือการไปแก้กรรม
แต่เราไล่ผีเหล่านี้ได้ด้วยยา กินเป็นเม็ดๆ หรือยาฉีดของจิตแพทย์ถึงได้ผลดีกว่าน้ำมนต์ศักดิ์ สิทธิ์เป็นไหนๆ ปัญหาคือจะไล่ผีพวกนี้ได้ต้องใช้เวลาหน่อย อย่างน้อยกินยาไปก็ 2 อาทิตย์โน่นผีถึงจะเริ่มหายไป
ดังนั้นจะมัวรอช้าอยู่ ใครเห็นผี ได้ยินเสียงผีอยู่ รีบมาโรงพยาบาลหาหมอเร็ว บอกเลยผีแบบนี้ พี่ปราบมาเยอะแล้ว ทั้งนี้ แต่นอกจากการทำงานผิดปกติของสมองเองแล้ว การมีอาการประสาทหลอนยังสามารถเกิดได้จากการใช้ยาเสพติดแทบทุกชนิด ซึ่งรวมไปถึงเหล้า กัญชาด้วย หรือเกิดจากโรคทางกายเช่น ลมชัก SLE ก้อนเนื้อในสมอง การบาดเจ็บของสมอง หรืออาการเพ้อสับสน ที่เกิดจากสาเหตุทางกายต่างๆด้วย ดังนั้นต้องอย่าลืมหาสาเหตุด้วยโดยเฉพาะคนที่เกิดอาการแบบเฉียบพลันทันใด
นอกจากนี้ส่วนส่วนน้อยที่เห็นผีจริงๆ (อันนี้ไม่เคยเจอเอง แต่จะไม่ลบหลู่เพราะไม่เคยเจอเองก็บอกไม่ได้ว่าไม่มี) กับพวกไม่เห็นผีจริง แต่หลอกคนอื่นว่าตัวเองเห็น หมอจะไม่ยุ่งนะจ๊ะ
ทั้งนี้ ปล.3 ย้ำว่าผมไม่ลบหลู่นะ คนบางคนอาจมี sense จริงๆ แต่เอาจริงๆมันคงน้อยมากจนผมไม่เคยเจอ ส่วนใหญ่เจอแบบที่ผมรักษาได้มากกว่า @หมอปอ