พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. และกล่าวถึงการแก้ไขกรณีทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 โดยไม่ยอมปฏิบัติตนตามมาตรการของไทย ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆ เหล่านี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ซึ่งวันนี้ส่งทีมไปตรวจข้อมูลเชิงลึก ตรวจผู้สัมผัส รวมถึงข้อมูลที่ลงทะเบียนในไทยชนะ เพื่อให้ทุกคนสบายใจ นอกจากนี้ยังสั่ง ศบค. ให้ทบทวนกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติของสถานทูตต่างๆ รวมถึงการพิจารณาอนุญาติให้เครื่องบินเข้าประเทศ ไม่ว่าเป็นเครื่องบินทหารหรือใดๆ ก็ตามต้องปฏิบัติตามระเบียบ
“กรณีนี้เป็นการไม่รับผิดชอบตามที่รับปากกันไว้ ออกไปนอกพื้นที่ ถือเป็นการฝ่าฝืน ผมได้หารือกับกระทรวงต่างประเทศและเอกอัครราชทูตอียิปต์ประจำประเทศไทยไปแล้ว ตอนนี้ระงับทุกเที่ยวบินที่เข้ามาในลักษณะนี้ทั้งหมด ไม่อนุมัติเข้ามาอีก จนกว่าจะแก้ได้”
การแก้ปัญหามีทั้งที่สำเร็จและที่ยังต้องแก้ไข โดยเพิ่มมาตรการอื่น เพราะรัฐบาลและ ศบค. ไม่เคยหยุดยั้งเรื่องเหล่านี้ ดังนั้นของให้เชื่อมั่นในการรับมือโควิด-19
ถ้ามองว่าเลวร้ายหรือไม่ดี ก็อยากขอให้เชื่อมั่นว่าระบบสาธารณสุขเรารับได้ แต่มันก็ไม่ควรจะเกิดขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่ผมเสียใจ ขอโทษประชาชนคนไทย
“เราต้องดูแลกันให้ดีที่สุด เพราะปัญหาเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด มันอาจจะเกิดข้อบกพร่อง ผมเน้นย้ำแล้วให้ ศบค.ทบทวนทุกอย่าง เพราะมีผลกระทบหลายเรื่อง ทั้งความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน รับปากว่าจะดำเนินการให้ดีที่สุด ขอเวลาให้หน่วยงานและ ศบค.แก้ปัญหา”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า กังวลเรื่องการ์ดตก เพราะมีข้อมูลว่าประชาชนและผู้ประกอบการการ์ดตก จึงเน้นให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเพื่อความรัดกุม อย่างกลุ่มสถานบันเทิงถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ปิดทันที ผับ บาร์ ที่มีคนแน่นขนัด ซึ่งหากมีรายงานก็ต้องปิดทันทีเพราะไม่แก้ไข เมื่อมีการกำหนดมาตรการไปแล้วท่านต้องร่วมมือกับเรา และวันนี้ขอย้ำว่าการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ โหลดแอพพลิเคชัน และการรักษาระยะห่าง ต้องปฏิบัติเหมือนเดิม
ไม่ล็อกดาวน์ –ไม่ขึ้นแบลกลิสต์
ส่วนกรณีล็อกดาวน์ ขอย้ำว่าตอนนี้ ศบค. อยู่ระหว่างการทบทวนมาตรการต่างๆ จากกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องหามาตรการที่เหมาะสม ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ติดตามสวบสวนโรคอยู่ เช่น ดูว่ามีใครติดเชื้อหรือไม่ และขอให้ประชาชนดูแลตัวเอง และย้ำว่าจริงๆ แล้ว เครื่องที่เข้ามา มาเปลี่ยนเที่ยวบินเท่านั้น เป็นเครื่องบินทหาร ปกติมาแล้วต้องบินไปเลย แต่กรณีนี้กลับมาค้างคืนแล้วมีบริษัทพาไปพักที่โรงแรม กติกาคือขอให้อยู่ในโรงแรม แต่ปรากฏว่าไม่มีการควบคุม ส่วนที่คุมก็ไม่ดีนัก วันนี้ไม่อยากให้ประเด็นการคุมโควิด-19 ที่มีความก้าวหน้ามีปัญหา
“เรื่องการท่องเที่ยวเตรียมการไว้ก่อน อนุมัติหรือไม่อนุมัติ ดูภายใน-ภายนอก ไม่ผลีผลาม ถ้ามีคนจำนวนมากเข้ามาแล้วไม่รักษาวินัย ไม่รักษากติกา จะเป็นปัญหา เรายังไม่ผ่อนคลายตรงนี้ แต่ก็ไม่ล็อกดาวน์หรือห้ามทั้งหมด ต้องหามาตรการที่เข้มข้นเพื่อรองรับการเข้ามาของเจ้าหน้าที่ทูต ทัวร์ นักธุรกิจ เจ้าหน้าที่ต้องมีความพร้อม เรื่องน้ำยาตรวจเชื้อต้องดำเนินการให้เพียงพอทุกสนามบิน”
ทบทวนว่ามีจุดรั่วตรงไหน ไม่ใช่ปิด รอนิดนึง หยุดหมดไม่ได้ คนรอกลับก็มี นักธุรกิจที่ต้องดูกิจการ ทูต-ผู้นำที่ต้องเข้ามา แต่ต้องมีมาตรการเข้มงวด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องขึ้นแบลกลิสต์หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า “ไม่ถึงขนาดนั้น” และเมื่อถามว่าจะมีการต่อ พ.ร.ก. หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า “ดูสถานการณ์ พูดไปก่อนเดี๋ยวเรื่อง”