วันนี้ (23 ก.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา พร้อมด้วย นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กว่า 20 คน ยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีวัยรุ่นยกพวกตีกัน หลังออกจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง กลางเมืองชัยภูมิ ที่เคยถูกสั่งปิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากฝ่าฝืนเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ปล่อยให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ และจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนด แต่ปิดกิจการไปได้เพียง 2 ปี ก็กลับมาเปิดใหม่ในสถานที่เดิม แม้จะอ้างว่าเปิดเป็นร้านอาหาร แต่พบมีการขายเหล้าเบียร์ และมีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ ถือเป็นความผิดซ้ำซาก
ทางเครือข่ายฯ จึงเสนอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการกลับมาเปิดใหม่ของร้านดังกล่าว พร้อมเร่งตรวจสอบสถานบริการทั่วประเทศว่า มีที่ใดฝ่าฝืนคำสั่งกลับมาเปิดใหม่ และขอให้บังคับใช้กฎหมายขั้นสูงสุด โดยเฉพาะหากพบมีตำรวจรู้เห็นเป็นใจ ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดกฎหมาย เรียกรับผลประโยชน์ รวมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงร้านเหล้าผับบาร์ ช่วยกันเฝ้าระวังการทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบด้วย
นายคำรณ เปิดเผยว่า ยังมีข้อมูลอีกหลายร้านที่เคยถูกสั่งปิดตามคำสั่ง คสช.กำลังเตรียมกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นร้านอาหาร จึงนำรายชื่อสถานบันเทิง ร้านเหล้า ผับ บาร์ ทั่วประเทศ ที่เคยถูกสั่งปิดตามคำสั่ง คสช.กว่า 600 ร้าน เนื่องจากหลายร้านอ้างว่ามี "นาย" อนุญาตให้กลับมาเปิดบริการได้ และยังมีข้อมูลด้วยว่าบางแห่งมีผู้ใหญ่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ หรือที่เรียกว่าผับวีไอพี จึงขอให้ตำรวจเร่งตรวจสอบ โดยเฉพาะในพื้นที่โซนนิ่ง