วันนี้ (29 ก.ค.2563) นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และหนึ่งในคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา เปิดเผยกรอบการประชุมนัดแรกในการตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีของอัยการคดีพิเศษอาญากรุงเทพใต้ 1 หลังสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ ว่า จะมีการพิจารณาใน 3 ประเด็นหลักตามที่อัยการสูงสุดได้สั่งการ ประเด็นแรกคือ คำสั่งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ประเด็นที่ 2 เป็นไปตามระเบียบกระบวนการหรือไม่ และประเด็นที่ 3 มีเหตุและผลอย่างไรที่พิจารณาสั่งไม่ฟ้อง โดยอัยการสูงสุดมีกรอบให้ทำงาน 7 วันในการสรุปประเด็นดังกล่าว
ส่วนที่สังคมมีการตั้งข้อสังเกตต่างๆ เช่น เรื่องพยานบุคคล 2 คนที่ทำให้อัยการเชื่อได้ว่า คดีนี้เป็นความผิดฐานประมาทร่วม แทนข้อกล่าวหาเดิม ในรายละเอียดคงไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการนำความคิดเห็นหรือข้อมูลต่างๆ ที่มีการแชร์ในโซเชียลมาเป็นประเด็นพิจารณาหรือไม่ อยู่ที่คณะกรรมการว่าจะนำเข้าพิจารณาหรือไม่
สำหรับกรณีที่อัยการและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องตรงกัน จะสามารถรื้อฟื้นคดีนี้มาได้อีกหรือไม่นั้น รองโฆษกอัยการสูงสุด ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปในประเด็นนี้ ขอให้คณะทำงานได้ตรวจสอบสำนวนทั้งหมดก่อน แต่ตามหลักของกฎหมายแล้วหากความเห็นสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด อัยการไม่สามารถสั่งฟ้องคดีได้ เว้นแต่มีพยานหลักฐานใหม่ในคดี หรือญาติของผู้เสียหายยื่นฟ้องต่อศาลเอง ซึ่งเป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความกันได้
รองโฆษกอัยการสูงสุด ยังระบุถึงการทำงานของอัยการสูงสุดในขณะนี้ที่สังคมเคลือบแคลงสงสัยว่าเป็นกลางหรือไม่นั้น ยืนยันว่า การตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อหาข้อเท็จจริง รวมทั้งการสั่งคดีการทำงานของอัยการว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าหากผลการตรวจสอบพบว่ามีการทำงานบกพร่องจะลงโทษกับพนักงานอัยการผู้สั่งคดีหรือไม่ ขอให้คณะทำงานพิจารณาก่อน
ตีกรอบ 15 วันตรวจสอบ ตร.ปฏิบัติหน้าที่คดี "บอส"
ส่วนกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งตั้ง พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน พร้อมคณะกรรมการรวม 10 คน ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจว่าเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบและคำสั่งที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เบื้องต้น พล.ต.อ.ศตวรรษ เปิดเผยว่า แม้จะยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้นัดหมายให้คณะกรรมการที่มีรายชื่อทั้งหมดไปประชุมเรื่องนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการที่จะร่วมพิจารณาข้อเท็จจริง จะเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในด้านต่างๆ เช่น จเรตำรวจ, ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องหารือในที่ประชุมก่อน แต่ยืนยันได้ว่าเมื่อเข้าสู่ที่ประชุมแล้วจะเร่งพิจารณาข้อเท็จจริงทันที เพื่อหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ เคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ อีกทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำหนดกรอบเวลาในการพิจารณาไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง จึงต้องเร่งหาข้อเท็จจริงให้ได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นัดแรก อสส.ประชุมสอบสำนวนคดี "บอส อยู่วิทยา"
ข้อขัดแย้งหลักฐานคดี "บอส อยู่วิทยา" ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต
31 คณาจารย์นิติฯ มธ.จี้ อสส. - ตร.ชี้แจงคดี "บอส อยู่วิทยา"