วันนี้ (7 ส.ค.2563) ไทยพีบีเอส ตรวจสอบเปิดข้อตกลงครอบครัวอยู่วิทยากับดาบวิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจที่เสียชีวิต โดยพบว่าในท้ายคำร้องพบเอกสารที่พี่ชายของดาบวิเชียร เขียนข้อความในนามครอบครัว กลั่นประเสริฐ ถึงครอบครัวอยู่วิทยา
เนื้อหาเขียนไว้ว่าจากเหตุการณ์อุบัติเหตุ กับดาบตำรวจวิเชียร ยังความโศกเศร้ากับครอบครัวกลั่นประเสริฐ ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น นับว่าเป็นความสูญเสียและเสียใจทั้งสองฝ่าย อดีต ไม่มีใครเรียกคืนมาได้ ทุกๆคนต้องอยู่กับปัจจุบันและดำเนินชีวิตต่อ
ผมและญาติๆของดาบตำรวจวิเชียร ก็อโหสิกรรมให้กับน้องผู้ก่อเหตุแล้ว และขอให้น้องดำเนินชีวิตอย่างมีสติเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน
ท้ายสุดต้องขอขอบคุณครอบครัวอยู่วิทยา และสน.ทองหล่อ ที่ช่วยจัดการเกี่ยวกับพิธีศพของดาบตำรวจวิเชียรและให้ความช่วยเหลือญาติๆของดาบตำรวจวิเชียร ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งลงลายมือชื่อ พรอนันต์ กลั่นประเสริฐ และนายวรยุทธ อยู่วิทยา รับรองสำเนาถูกต้อง
ทนายชี้ช่องยังมีโอกาสคดีอาญาแม้รับค่าเสียหาย 3 ล้าน
ในบันทึกการตกลงค่าช่วยเหลือเขียน ณ สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2555 ระบุว่านายพรอนันต์ ในฐานะตัวแทนฝ่ายทายาท ดาบตำรวจวิเชียร และ ผู้แทนของนายวรยุทธ ได้นัดหมายกันเจรจาเกี่ยวกับค่าช่วยเหลือในหนังสือระบุว่าฝ่ายนายวรยุทธเรียกร้องค่าเสียหาย 6 ล้านบาท โดยอ้างถึงความน่าจะเป็นของรายได้ หากดาบวิเชียรยังมีชีวิตอยู่และยังรับราชการ ซึ่งดาบวิเชียร คอยดูแลพี่สาวและหลานๆ
แต่ผู้แทนฝ่ายนายวรยุทธเสนอตัวเลขกลับไป 3 ล้านบาท ซึ่งนายพรอนันต์พอใจกับค่าช่วยเหลือนี้ นัดหมายชำระกันในวันที่ 20 ก.ย.2555 ที่ สน.ทองหล่อ เงื่อนไขก็คือ เมื่อรับเงินแล้ว นายพรอนันต์ ในฐานะตัวแทนญาติดาบวิเชียรจะไม่ติดใจฟ้องร้องนายวรยุทธ ทั้งทางแพ่งและอาญา
ซึ่งวันถัดมามีการนัดหมาย เพื่อมอบเงินช่วยเหลือตามที่ตกลง ผลจากการรับความช่วยเหลือในครั้งนั้นถือว่าตกลงกันได้ ตามเงื่อนไขก็คือ รับความช่วยเหลือ 3 ล้านบาทแล้วจะไม่ฟ้องร้องต่อไปทั้งทางแพ่งและอาญา
นอกเหนือความสัมพันธ์ของคู่กรณี เมื่อเห็นเงื่อนไขแล้ว อาจจะทำให้คิดได้ว่า ผูกมัดต่อญาติหากกระบวนการฟ้องร้องเกิดขึ้นใหม่หรือไม่ แต่นักกฎหมาย อธิบายว่า ไม่เกี่ยวกัน ในทางแพ่งอาจจะจบ แต่ในทางอาญา คดีขับรถชนคนตายถือเป็นอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ ทำให้ญาติดาบวิเชียร ยังมีสิทธิ์ที่จะ เอาผิดนายวรยุทธได้อยู่ แม้จะรับเงินก้อนนี้ไปแล้วก็ตาม
อ่านข่าวเพิ่ม ต้องอ่าน ! หลักฐาน (เก่า) ข้อเท็จจริง (ใหม่) ในคดี “บอส อยู่วิทยา”
อธิบายความสัมพันธ์พยานบอส
อัยการสูงสุดไปร่วมงาน อดีต ส.ว.ชูชัย ก็คงไม่ได้ผิดอะไร แต่ดูจะเป็นอีกหนึ่งความบังเอิญไม่เว้นวัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของพยานกับตัวบอส
จากการทำแผนผัง เพื่ออธิบายให้เข้าใจความสัมพันธ์ชัดเจนขึ้น บอสเป็นศูนย์กลาง มีพยาน 2 ปากอ้างว่า ดาบวิเชียร ขี่ตัดหน้าบอสเอง คนแรกคือจารุชาติ มาดทอง พยานที่บังเอิญเสียชีวิตไป คู่กรณีก็บังเอิญรู้จักกันในร้านเหล้าที่เชียงใหม่ก่อนรถเฉี่ยวชนกัน
จารุชาติ บังเอิญเป็นคนที่มาทำงานให้ อดีต ส.ว.ก๊อง หรือ ชูชัย เลิศพงษ์อดิศร และชูชัย บังเอิญ รู้จักกับอัยการสูงสุดคนปัจจุบัน นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ และอดีต ส.ว.ชูชัย บังเอิญ เป็นส.ว.รุ่นเดียวกับ นายสมัคร เชาวภานันท์ และนายสมัคร ก็เป็นทนายความให้ครอบครัวอยู่วิทยา
นายชูชัย เป็นประธานสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ยูไนเต็ด ได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัทสยามไวเนอรี่ บริษัทที่นายเฉลิม อยู่วิทยา ก่อตั้งขึ้น นายเฉลิมเป็นพ่อของ บอส วรยุทธ
ส่วน พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และพล.อ.ท.สุรเชษฐ ทองสลวย ปรากฏตัวหลังเกิดเหตุการณ์ 3 ปี ไปให้การกับ สน.ทองหล่อ อ้างว่าเห็นเหตุการณ์ หลังจากเดินทางกลับจากงานวันเกิด พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือเสธไอซ์ คืนวันที่ 2 ก.ย.2555 แต่ตอนนั้นไม่ได้บอกใคร
ปี 2558 ทั้ง 2 คนไปพบ เรืออากาศเอกสอาด ศบศาสตราศร จู่ๆก็มีบทสนทนาเรื่องคดีบอสขึ้นมา จึงบอกกับเรืออากาศเอกสอาด ว่าเห็นเหตุการณ์ เรืออากาศเอกสอาด บังเอิญ รู้จักกับนายเฉลิม จึงเล่าให้นายเฉลิมฟัง จึงขอให้มาเป็นพยาน
และทั้ง 2 คนก็เคยไปเล่าให้ พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศฟังด้วย พล.อ.อ.กันต์ ก็ยอมรับในการให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ สนช.ว่ารู้จักนายเฉลิม
จะเห็นว่า พยานในคดีนี้ บังเอิญมีจุดเกาะเกี่ยวกับตัวนายเเฉลิม พ่อของบอส ไม่มากก็น้อย และที่ปฏิเสธไม่ได้คือตำรวจและอัยการเชื่อถือพยานทั้ง 2 ปากไม่สั่งฟ้อง บอสด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต้องอ่าน! ชีวิต “จารุชาติ” พยานปากสำคัญ คดี “บอส อยู่วิทยา”
อัยการชี้คดี "บอส อยู่วิทยา" มีหลักฐานใหม่ เสพโคเคน-ขับรถเร็ว
"ปริญญา" ชี้ช่องใช้หลักฐานใหม่รื้อคดี "บอส อยู่วิทยา"