เจ็ตสกีอาชีพชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ "เจ็ตสกี โปรทัวร์ 2020" พร้อมสร้างความมันส์บนผืนน้ำ สนามที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 15 และวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม นี้ ณ สวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ (บึงพระชนก) จังหวัดอุทัยธานี โดย ส.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ จะให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วยคุณชาดา ไทยเศรษฐ์ นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี
การแข่งขันในสนามนี้เป็นอีกสนามที่มีความคึกคักมากที่สุดนับตั้งแต่มีการแข่งขันเจ็ตสกี โปรทัวร์ มา เนื่องจากมีนักแข่งจากทั่วประเทศลงสมัครแข่งล้นหลาม ทำให้ในบางรุ่นมีนักแข่งลงสมัครจนเกินโควต้าเรือของแต่ละเรซ จึงต้องมีการแข่งขันในรอบคัดเลือกหรือควอลิฟายก่อนการแข่งขันโมโตแรก ส่งผลให้ต้องขยายเวลาการแข่งขันในแต่ละวัน ซึ่งจะเริ่มกันตั้งแต่ 07.00 น. ไปจนถึงเวลา 17.00 น.
ไฮไลท์ของการแข่งขันนอกเหนือจากการแข่งขันในรุ่นระดับมืออาชีพที่ยังมีความเข้มเหมือนในสนามแรกที่จังหวัดนครราชสีมาแล้ว สนามนี้จะเป็นการตัดสินว่าใครจะเป็น 8 ตัวแทนทีมชาติไทยจาก 4 รุ่น เจ็ตสกียืนหญิงสมัครเล่น, เจ็ตสกีนั่งอาชีพจำกัดการแต่งเครื่องยนต์, เจ็ตสกียืนอาชีพห้ามแต่งเครื่องยนต์ และ เจ็ตสกีนั่งอาชีพ 1,100 ซีซี ไปสู้ศึกเอเชี่ยน บีช เกมส์ ที่ประเทศจีนในปีหน้า
แต่ละรุ่นจะคัดเอานักแข่งที่มีคะแนนสะสมอันดับ 1 และ 2 จาก 2 สนามแรกของปีนี้เป็นตัวแทนทีมชาติไทย ทำให้แชมป์จากสนามแรกถือว่ามีโอกาสเป็น 1 ใน 2 ของแต่ละรุ่นสูง ซึ่งประกอบไปด้วย ลัลลณา ดวงโพธิ์พิมพ์, ธีระ เสร็จธุระ, นันทวัฒน์ สิงห์อุไร และ เพียรรัตน์ ศรีคงลักษณ์ ตามลำดับ
นอกจากนี้กระแสของแฟนเจ็ตสกีไทยยังให้ความสนใจกับการลงแข่งขันเป็นสนามที่ 2 ของ "น้องออก้า" นครา ศิลาชัย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนวัยเพียงแค่ 9 ขวบ ของ "เปิ้ล" นาคร ศิลาชัย แชมป์โลกรุ่นเก๋า ที่จะลงชิงชัยในรุ่นเจ็ตสกียืน เยาวชน สลาลม เป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน
น้องออก้า ได้ลงสนามชิมลางไปบ้างแล้วในการแข่งขันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และในฤดูกาลนี้ตั้งเป้าว่าจะลงสนามให้ครบทั้ง 4 สนามของฤดูกาล โดยในสนามแรกประเดิมสนามเป็นอันดับ 6 แต่ในสนามนี้ขอลุ้นขยับอันดับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 เพื่อโอกาสขึ้นโพเดี้ยม รวมทั้งทำอันดับให้ดีที่สุดเมื่อจบฤดูกาล
สำหรับการจัดการแข่งขันในสนามนี้ ยังคงเป็นการแข่งขันแบบไม่มีผู้ชม ยึดปฏิบัติตามนโยบายคำสั่งจากภาครัฐ และคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมด้านกิจกรรมกีฬา ในการดำเนินการจัดการแข่งขัน อย่างเคร่งครัดตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.)