วันนี้ (23 ส.ค.63)นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าววว่าขณะนี้ มวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.พะเยา และ จ.แพร่ กำลังไหลลงมาที่ จ.สุโขทัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการบริหารจัดการน้ำให้ไหลมาถึงตัวเมืองไม่เกิน 500 -550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 400 กว่า ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
รวมถึงขณะนี้อยู่ระหว่างการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและคันดินกั้นน้ำซึ่งมวลน้ำที่ใหญ่มากได้ข้ามสิ่งก่อสร้างทำให้คันดินกั้นน้ำขาดใน 3 จุด คือ ในพื้นที่ ม.1และหมู่ 7 ต.ปากแคว และพื้นที่ ม.6 ต.ปากพระ ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ ประชาชนเดือนร้อนกว่า 100 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 3 สาย
นายไมตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้ฝนมาค่อนข้างเร็วจึงทำให้ไม่สามารถป้องกันได้ทัน โดยจุดที่น่ากังวลคือ จากกรณีที่น้ำไหลทะลักข้ามสิ่งก่อสร้างและคันดินกั้่นน้ำคาดว่าน้ำจะไหลไปยังคลองแม่ลำพัน ซึ่งทางน้ำที่จะผ่านโดยได้แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเฝ้าระวังและยกของขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันทรัพย์สินเสียหาย รวมถึงเตรียมน้ำแหละอาหารเครื่องยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน
ขฯะที่จุดเสี่ยงในตัวจังหวัดซึ่งพนังกั้นน้ำสูง 3 เมตรในแนวแม่น้ำยมขณะนี้น้ำในแม่น้ำยมเพิ่มระดับสูงต่อเนื่องโดยเหลืออีกราว 1 ม.และหากบริหารไม่ได้ก็จะเกิดความเสี่ยงและยืนยันว่า จะบริหารจัดการน้ำให้มาถึงตัวจังหวัดไม่เกิน 500 -550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยน้ำจาก จ.แพร่อยู่ที่ประมาณ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะต้องกระจายน้ำออกคลองต่าง ๆ ด้านข้าง และเร่งระบายไปสู่พื้นที่บางระกำโมเดลเพื่อป้องกันน้ำท่วมเขตเศรษฐกิจ
ขณะที่หน่วยงานต่าง ๆ ระดมสรรพกำลังทั้งเครื่องจักรกล และวางจุดเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้ในพื้นที่เขตตัวเมืองแล้ว ขณะที่จุดที่คันดินแตกนั้นต้องเร่งระบายน้ำให้ออกจากพื้นที่เนื่องจากมวลน้ำที่ไหลมานั้นค่อนข้างใหญ่มากจึงแจ้งเตือนให้ประชาชนเร่งขนของขึ้นที่สูงและจัดตั้งศูนย์อพยพที่วัดปากแควและวัดลัดทรายมูลแล้ว