วันนี้ (24 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง พบกับบาเยิร์น มิวนิค ที่สนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดยเกมนี้ ปารีส ใช้ 3 ประสานแนวรุกอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์ ลงสนาม ส่วน บาเยิร์น นำทีมโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, โธมัส มุลเลอร์ และแซร์ช กนาบรี้
รูปเกมเป็นบาเยิร์น ครองบอลมากกว่า ก่อนจะได้ประตูในนาที 59 จากการโหม่งของคิงส์ลีย์ โกมาน หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บาเยิร์น ชนะปารีส 1-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 6 และเป็นการคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ หรือ 3 แชมป์ ในฤดูกาลนี้ของ บาเยิร์น
หลังจบเกมแฟนบอลบาเยิร์น ที่ตามไปเชียร์ถึงโปรตุเกส ต่างออกมาถ่ายรูป และฉลองแชมป์กันอย่างสนุกสนาน เช่นเดียวกับที่เมืองมิวนิค แฟนบอลที่ชมการถ่ายทอดสดตามร้านอาหารได้ร่วมกันฉลองแชมป์สมัยที่ 6 ตรงข้ามกันบรรยากาศของแฟนบอลปารีส แซงต์แชร์กแมง ในฝรั่งเศส ต่างผิดหวังกับผลการแข่งขัน ทำให้แฟนบอลบางส่วนก่อจราจลขึ้นบริเวณฌอง เอลิเซ่ จนทางการต้องเพิ่มกำลังตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์
ส่วนงานแถลงข่าวหลังจบเกมฮันซี ฟลิค เฮดโค้ชของบาเยิร์น มิวนิค บอกว่า นี่คือสิ่งที่ทีมของเขาสมควรได้รับ จากผลงานที่ยอดเยี่ยม และการทำงานหนักตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา ด้านโทมัส ทูเคิล เฮดโค้ชของปารีส ยอมรับว่า รู้สึกผิดหวัง และหากทีมของเขาเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนจากโอกาสที่มี ก็อาจเป็นฝ่ายชนะในเกมนี้
สำหรับ บาเยิร์น มิวนิค นอกจากจะคว้า 3 แชมป์แล้ว พวกเขายังสร้างสถิติชนะรวด 11 นัดในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำได้อีกด้วย โดยเอาชนะทีมเร้ดสตาร์ เบลเกรด, โอลิมเปียกอส และ สเปอร์ส ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะชนะ เชลซี, บาร์เซโลนา และ โอลิมปิก ลียง และ ปารีส แซงต์แชร์กแมง