วันนี้ (28 ส.ค.63) สมาคมเกษตรปลอดภัย และสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย เดินทางเข้าพบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอให้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายทบทวน ยกเลิกการแบนพาราควอตโดยเร็วที่สุด แต่ให้ดำเนินการจํากัดการใช้สารพาราควอต เช่นเดียวกับไกลโฟเซต ซึ่งเป็นแนวทางบริหารจัดการที่เหมาะสมที่สุดและไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องและให้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข กรมปศุสัตว์ หยุดการนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบทางการเกษตรที่มีการใช้สารพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสทันที โดยต้องไม่มีการผ่อนปรนถึง มิ.ย.64 เนื่องจากเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนธุรกิจโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภคคนไทย
นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ นายกสมาคมเกษตรปลอดภัย ระบุว่า ในวันที่ 29 ส.ค.63 จะเป็นวันแรกที่กรมวิชาการเกษตรจะบังคับใช้กฎหมายห้ามจำหน่ายหรือมีไว้ครอบครอง ซึ่งจะกระทบต่อเกษตรกรอย่างมากและเชื่อว่า เกษตรกรที่ยังจำเป็นต้องใช้สารพาราควอต จะต้องลักลอบหาซื้อสารพาราควอตเพื่อใช้ในการเกษตรอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อจำเป็นต้องลักลอบก็จะส่งผลต่อราคาให้สูงขึ้น ในขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังไม่มีสารใดมาทดแทนได้ จึงต้องการให้นำหนังสือถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายเพื่อพิจารณาทันที
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ระบุว่า ในสัปดาห์หน้า นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะนำข้อมูลเรื่องการแบนสารเคมีเข้าหารือก่อน จะนัดเพื่อประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายอีกครั้ง
ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมวัตถุอันตรายให้กรมวิชาการเกษตรกลับไปศึกษาการใช้สารทดแทนอื่นเช่นเดียวกับต่างประเทศที่มีการแบน และกลับมาเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายอีกครั้ง
ขณะที่วันที่ 29 ส.ค.63 กรมวิชาการเกษตร ให้เกษตรกร ร้านค้า ส่งมอบ 2 สารเคมีเกษตร คืนร้านค้า ภายในวันที่ 29 ส.ค.63 หากใครมีไว้ครอบครองผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 1 ล้านบาท