การประกาศความ”พร้อม” ที่จะก้าว ขึ้นตำแหน่ง รมว.คลัง ของนายสันติ พร้อมพัฒน์ ที่ผ่านการทำงานมาถึง 2 รมว.คลัง และ 1 รองนายก ที่สำคัญยังเป็น”ตัวเต็ง” และมีแรงหนุนจากคนในพรรค
ตามติดๆ มาด้วยกระแสข่าวที่จะให้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน “ป้ายแดง” จากปรับครม.ครั้งล่าสุด ประยุทธ์ 2/2 ข้ามห้วยมานั่งเป็น รมช.คลัง
แต่จนถึงขณะนี้ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังไม่รับสัญญาณใดๆ บอกเพียงแต่ว่า ทางพรรคยังไม่ได้หารือกัน เรื่องการหาบุคคลมาเป็น รมว.คลัง แทนนายปรีดี เป็นเรื่องที่นายกฯ จะพิจารณา
เมื่อพูดถึงการใช้อำนาจเต็มของนายกฯ ในการพิจารณาปรับครม. ทำให้ภาพการปรับครม.รอบล่าสุด ถูกวนกลับมาแจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง
เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้กลุ่มสามมิตร อย่างนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม “จำฝังใจ” มาแล้ว เมื่อครั้ง “หมายตา” เก้าอี้ รมว.พลังงาน เดินเกมจนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.คนเก่า จากกลุ่มสี่กุมาร ออกจากพรรค
ในครั้งนั้น มั่นใจ เกิน 100 % จนถึงขนาดเริ่มเรียกข้าราชการกระทรวงพลังงาน มาติวเข้ม
แต่สุดท้าย สิ่ง”รับปาก” จบอยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ
“หากถอดบทเรียน ของนายสุริยะ แห่งกลุ่มสามมิตร จะรู้ทันทีว่า เป็นเรื่องยาก เพราะการผ่าน “ฉลุย” จากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ใช่ว่า เป็นสิ่งเดียวกับนายกฯตัดสินใจ” แหล่งจากแกนนำพรรค กล่าว
ที่สำคัญตำแหน่งรมว.คลัง ถือเป็นกล่องดวงหัวใจ ของรัฐบาลและทีมเศรษฐกิจ เพราะเป็นกลไกหลักที่จะนำพาประเทศไทย ฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก และแน่นอนว่า นายกฯคงไม่ยอมให้ใครมาแตะโควต้าตำแหน่งนี้
นายสันติ กำลังสวนกระแสหรืออาจจะคิดว่าถึงเวลา “รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง” เพราะที่ผ่านมา การยอมที่จะเล่นบทแพ้ หรือเป็นรอง ในหลายครั้ง
เพราะนายสันติ มีชื่อเข้าชิงในตำแหน่งสำคัญๆ ตั้งแต่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่สุดท้าย ยอมไปนั่งในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรคแทน
หรือเป็นอีกชื่อในเข้าชิง รมว.พลังงาน แต่สุดท้ายก็ถอยให้ นายสุริยะ สู้ศึก และกลับไปนั่งรมช.คลังตามเดิม
งานนี้ ไม่รู้ผลจะออกมาอย่างไร แต่ระหว่างนี้ นายสันติก็ได้ทำหน้าที่รักษาการ รมว.คลัง ไปพลางๆ ก่อน จนกว่า นายกฯจะตัดสินใจ