วันนี้ (20 ก.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมว่า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำแท่งแบริเออร์ และรั้วลวดหนามหีบเพลง ติดตั้งปิดเส้นทางโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่บริเวณวัดเบญจมบพิตร และบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยไม่อนุญาตให้รถหรือบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องผ่าน
นอกจากนี้ยังได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล ประจำจุดแยกต่างๆ ที่จะมุ่งหน้ามายังทำเนียบรัฐบาล เพราะต้องผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ
ส่วนที่ท้องสนามหลวง ยังคงมีผู้ชุมนุมปักหลัก ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา กระทั่งเวลา 06.41 น. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ปักหมุดทองเหลือง ขนาด 11 นิ้ว อ้างชื่อเป็น “หมุดคณะราษฎร หมุดที่ 2 ปี 2563” พร้อมกับอ่านแถลงการณ์
เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ติดป้ายห้ามผ่านบน ถ.ราชดำเนินนอก บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เนื่องจากเงื่อนไข พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ
เวลา 08.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เริ่มเคลื่อนตัวออกจากสนามหลวง มาทางทิศใต้ของสนามหลวง โดยใช้เส้นทางด้านศาลฎีกา ซึ่งจะต้องฝ่าด่านกั้นของตำรวจในชั้นแรกบริเวณหน้าศาลฎีกา ที่จะต้องเจรจา หากผ่านจากจุดนี้ไปจะมีแนวกั้นรถเมล์อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งแกนนำยืนยันว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง
เวลา 08.31 น. จากการสังเกตการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอาวุธ แต่มีการใช้เจ้าหน้าที่วางทัพ 2 ชั้น และเริ่มทยอยเสริมทัพเพิ่มเข้ามาอีก 2 ชั้น ท่ามกลางสื่อมวลชนที่เกาะติดสถานการณ์จำนวนมาก
เวลา 08.40 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เริ่มเจรจากับตำรวจหน้าแนวแผงกั้น โดยมีพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ซึ่งเบื้องต้นข้อเรียกร้องของตำรวจคือจะไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปทั้งหมด แต่ขอให้ส่งตัวแทนไปที่ทำเนียบองคมนตรีเท่านั้น
ต่อมาเวลา 08.58 น. รุ้ง ปนัสยา ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ให้ ผบช.น. พร้อมมอบหนังสือ โดย 3 ข้อ คือ 1.รัฐบาลต้องลาออก 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยตั้ง ส.ส.ร. และ 3.ปฏิรูปสถาบันฯ 10 ข้อ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการล้มล้างสถาบันฯ แต่ต้องการทำให้สถาบันฯ มีความมั่นคงคู่กับสังคมไทยต่อไป
จากนั้น เวลา 09.30 น. แกนนำประกาศยุติชุมนุม โดยนัดกันใหม่ในวันที่ 24 ก.ย. ที่หน้ารัฐสภา เพื่อกดดันรัฐสภา พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ