หลัง "ดราม่าวงการนางงาม" กลายเป็นเรื่องร้อนแรงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากกรณีที่มีการเปิดเผยว่า มีผู้จัดการนางงามตัวเต็งจากเวที Miss Universe 2020 แฝงตัวเป็นทีมงานในกองประกวด ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวและความลับภายในเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎกองประกวด จนเกิดแฮชแท็กร้อน #ผู้จัดการผีผลัก โดยแฟนๆ นางงามหลายท่านก็พุ่งเป้าไปที่ "เฌอเอม ชญาธนุศ" ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 หมายเลข 82
วันนี้ (29 ก.ย.2563) เฌอเอม ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมด้วย "สิทธิชัย เร็ววิโรจน์" หรือ เคน และ "ทนายนิด้า" ที่ปรึกษากฎหมาย โดยนายสิทธิชัย ชี้แจงว่า เป็นเพียงผู้จัดการดารา ดูแล Sponsorship ไม่ใช่มิจฉาชีพ เป็นฟรีแลนซ์ ร่วมงานกันตั้งแต่ 2019 ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่แฟร์กับตัวเองและเฌอเอม ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ได้เข้าร่วมประชุมตลอดตามที่กล่าวหา เข้าร่วมประชุมเพียง 3 ครั้ง และไม่ได้นำข้อมูลอะไรให้เฌอเอม แม้ไม่ได้แจ้งกองไว้ก่อนว่าเป็นผู้ดูแลเฌอเอม แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ปกปิดอะไร
ด้านเฌอเอม ระบุว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีผู้จัดการส่วนหนึ่งเพราะมีนายสิทธิชัยเป็นโบรกเกอร์ หางานให้ ขออภัยที่ไม่ได้แจ้งอย่างชัดเจนแต่แรก ยืนยัน ไม่ได้รับคีย์เวิร์ด หรือสิทธิพิเศษใดๆ ในกอง ส่วนเรื่องที่หัวหิน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ไม่ได้มีสิทธิอะไรมากกว่าคนอื่น
สำหรับการสละสิทธิ์ ไม่ได้คุยไว้ก่อน แต่รู้สึกไม่สบาย จึงบอกว่าหากไม่ไหว ก็แค่ไม่อยากล้มลงในกองหรือต่อหน้าสื่อเท่านั้น ขอแค่ให้เดินในวันไฟนอลกับเพื่อนอีก 29 คน เท่านั้น ดังนั้น การสละสิทธิ์จึงขอให้กองตัดสิน ยืนยันยังไม่สละสิทธิ์ด้วยตัวเอง ขอให้กอง และประชาชนช่วยพิจารณาและอยากให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง
ส่วนกรณีไม่ปรากฏตัวในกองวันก่อน เนื่องจากไม่ได้รับแจ้งข้อมูลการเข้ากอง จึงไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม บางช่วงที่หายไปเนื่องจากไม่สบายและขอลาไปโรงพยาบาลจนทำให้นายสิทธิชัยได้พบกับคุณปุ้ย
เฌอเอม ระบุว่า ปีหน้าคงไม่มาลงประกวดแล้ว เพราะปีนี้เต็มที่ที่สุดแล้วในทุกๆ ส่วน สำหรับเรื่องการดำเนินคดีผู้ที่กล่าวหา ทางทนายนิด้า เปิดเผยว่า ตอนแรกเฌอเอมไม่มั่นใจในกรอบเนื้อหาที่แถลงข่าวว่าได้หรือไม่ได้แค่ไหนจึงออกมาช้า แต่วันนี้แค่อยากมาแถลงให้เข้าใจ ไม่ได้อยากเป็นคดี ตอนนี้พิจารณาจากหลักฐานพบว่า เฌอเอมไม่ได้ซ่อนปิดบังอะไรแน่นอน
ทั้งนี้ เฌอเอมขออย่าโยงประเด็นดังกล่าวถึงคนไม่เกี่ยวข้อง พร้อมขอบคุณกองประกวดที่ให้แถลงข่าวในวันนี้ ถือว่าได้ให้ความเป็นธรรมแล้ว พร้อมทิ้งท้ายข้อความฝากสังคมว่า
การกล้าที่จะพูดในสังคม เป็นเรื่องที่ต้องมีคนเริ่ม ทุกครั้งที่คุณจะทลายกำแพง คุณต้องทุบเป็นครั้งแรกเสมอ แม้ว่าต้องทุบกำปั้นเปล่าก็คงต้องทำ ไม่อย่างนั้นกำแพงก็คงไม่ทลายลงมา