ความชัดเจน หลังครม.มีมติ จัดการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 76 จังหวัด เป็นสนามแรกของการเลือกตั้งท้องถิ่นในช่วงปลายปีนี้
ดูเหมือนโหมดการเมืองจะเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะกับกลุ่มหรือพรรคที่มีความพร้อมอย่าง "คณะก้าวหน้า" ที่เตรียมประกาศเปิดตัวผู้สมัครอบจ. เกือบ 40 จังหวัด ในวันที่ 9 ต.ค.นี้
แต่พรรคใหญ่ที่เป็นแกนนำรัฐบาลอย่าง “พรรคพลังประชารัฐ” กลับยังไม่มีความชัดเจน ไร้ทิศทาง ถามแกนนำคนไหน ก็มีแต่โยนให้ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ตัดสินใจ ตามคำชี้แจงจาก นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค
"การส่งผู้สมัครทั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ อบจ. ยังมีเวลา ต้องรอให้ที่ประชุมพรรคตัดสินใจ คาดว่าในสัปดาห์หน้าคงได้หารือกัน"
แม้ที่ผ่านมามีการมอบ "ภารกิจลับ" แบ่งพื้นที่ ให้ บรรดารองหัวหน้าพรรค อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ เดินเกมลึกของการเมืองระดับท้องถิ่น ขณะที่ในสนาม กทม. มอบ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลฯ และ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ผู้คร่ำควอดในพื้นที่ กทม. เป็นผู้เดินเกม ก่อนที่จะส่งไม้ต่อให้ผู้ใหญ่ในพรรค ตัดสินใจ
แต่นั่นไม่ได้ทำให้ ปัญหาการทับซ้อนของพื้นที่ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของพรรคลดลง ทั้งนี้เป็นเพราะพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคใหญ่ที่รวมกลุ่มต่างๆ มากมาย ขณะที่แต่ละกลุ่มแต่ละมุ้งก็วางตัวและเตรียมส่งผู้สมัครไว้บ้างแล้ว
ที่เห็นได้ชัดอย่างพื้นที่ภาคเหนือและอีสานที่มีหลายกลุ่มใหญ่ ทำท่าจะเฉือนกันไม่ลง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มภาคเหนือ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ,กลุ่มสามมิตรของนาย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ,กลุ่มเพชรบูรณ์ ของนายสันติ พร้อมพัฒน์ ,กลุ่มนายสุชาติ ตันเจริญ รวมถึงกลุ่มกำแพงเพชร ของนายวราเทพ รัตนากร
ส่วนอีสานมีกลุ่มโคราช นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ และกลุ่มอุบลของ นายสุพล ฟองงาม ,นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชลบุรีใหม่ของ นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่ทับซ้อนกับกลุ่มพลังชลของ สนธยา คุณปลิ้ม ส่วนภาคใต้มีกลุ่มด้ามชวานไทยของ นาย นิพนธ์ ศิริธร และกลุ่มสามจังหวัดชายแดนใต้ของนาย สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ
เบื้องต้นทางพรรคได้เตรียมแนวทางตัดสินใจในการส่งผู้สมัคร อบจ.ครั้ง ไว้ 3 แนวทาง "ที่เตรียมแนวทางไว้คือ บางพื้นที่จะลงรับสมัครในนามพรรค บางพื้นที่ลงในนามตัวเอง และกลุ่มของตัวเอง แต่ข้อสรุปแต่พื้นที่จะเป็นอย่างต้องรอการประชุมกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง" รายงานข่าวจากแกนนำพรรคพลังประชารัฐ
หากเป็นเช่นนั้น การประชุมของกรรมการบริหารพรรค ไม่เพียงแต่เคาะการส่งผู้สมัครแต่ละพื้นที่ ยังต้องเคลียร์กับบรรดากลุ่มต่างๆหากไม่ได้ลงในนามพรรคด้วย
ซึ่งเรื่องดังกล่าว นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ทางพรรคจะต้องพิจารณา เพราะการเลือก นายก อบจ. กับ อบจ. มีวิธีการเลือกที่ไม่เหมือนกัน
"ดังนั้น ต้องมาดูภาพรวม เราตัดสินใจไม่ได้ว่าจังหวัดไหน เขตไหนเป็นอย่างไรเพราะฉะนั้นต้องให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคดูให้รอบคอบอีกที และจากนั้นก็คงจะมีความชัดเจนในเรื่องของการจัดทีมไปช่วยผู้สมัครในพื้นที่ต่างๆ"
"ขอให้รอดูว่าจะเป็นรูปแบบไหน เพราะบางพื้นที่ก็มีเงื่อนไขที่ไม่สามารถใช้กฎเกณฑ์เดียวกันได้ในทุกพื้นที่เนื่องจากหลายจังหวัดมีส.ส. หลายคน ซึ่งบางคนก็สนับสนุนนายกฯอบจ.คนละคนกัน ซึ่งก็ถือเป็นสิทธิของเขา"
บทสรุปจะมีการจัดสรรปันส่วนให้แต่ละกลุ่มลงสมัครในนามพรรคประชารัฐมากน้อยเพียงใด คงต้องรอดูกันต่อไป แต่แน่ๆ ระเบิดเวลาครั้งนี้เป็นศึกศักดิ์ศรี ที่ไม่มีกลุ่มไหนยอมกันแน่นอน