วันนี้ (14 ต.ค.2563) ศาลปกครองกลางนัดไต่สวน คดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 ระหว่าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือบีทีเอส (ผู้ฟ้องคดี) กับคณะกรรมการคคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอส เดินทางมาเป็นตัวแทนในฐานะผู้ฟ้องคดี ร่วมให้ข้อมูลในการไต่สวน ส่วนนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมให้ข้อมูลในฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดี
โดยคดีนี้บีทีเอส ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และรฟม. กรณีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทีโออาร์โครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยนำข้อเสนอทางด้านเทคนิคมาให้คะแนนควบคู่กับข้อเสนอราคา หลังจากที่มีการเปิดขายซองประมูลไปแล้ว ทำให้บีทีเอสจึงได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอให้เพิกถอนเอกสารเพิ่มเติมการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ดังกล่าว และขอให้คุ้มครองการประมูลฉุกเฉิน
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอส เปิดเผยว่า มั่นใจว่าศาลจะรับคำร้องคุ้มครองอย่างแน่นอนโดยวันนี้ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณายกเลิกหลักเกณฑ์ เนื่องจากหากนำด้านเทคนิคและราคามาพิจารณาร่วมกันอาจจะเกิดความไม่เป็นธรรม ส่วนกรณีที่รฟม.ระบุว่า บีทีเอสยังไม่ใช่ผู้เสียหาย ประเด็นนี้ได้ชี้แจงต่อศาลแล้ว
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่ารฟม. ได้ส่งคำร้องคัดค้านคุ้มครองชั่วคราวของบีทีเอส ต่อศาลปกครองกลาง โดยชี้แจงว่า บีทีเอสยังไม่ใช่เป็นผู้เสียหาย เพราะการดำเนินการเปลี่ยนแปลงข้อเสนอเพิ่มเติมเป็นอำนาจของรฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 สามารถดำเนินการได้ทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย และการประมูลดังกล่าวยังไม่ได้เปิดให้ยื่นซองข้อเสนอ โดยมีการขยายระยะเพื่อให้ผู้ซื้อซองราคาเตรียมตัวในการยื่นซองเอกสารประมูล ดังนั้นความเสียหายจึงยังไม่เกิดขึ้น พร้อมมั่นใจว่า ศาลน่าจะไม่รับคำร้องคุ้มครองชั่วคราว เบื้องต้นคาดว่า ศาลจะน่าจะมีคำพิจารณาในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากการไต่สวนของศาลฯ ซี่งจะรับพิจารณาของทั้งสองฝ่าย น่าจะมีคำสั่งไม่เกินสัปดาห์หน้า โดยก็ต้องรอคำสั่งศาลออกมา ไม่อยากก้าวล่วงอำนาจศาลฯ และยังไม่มีแผนรองรับกรณีที่คำสั่งของศาลฯออกมาเป็นอย่างไร เพราะมั่นใจว่าศาลฯไม่น่าจะคุ้มครองคำร้องของบีทีเอส
ขณะที่ก่อนหน้านี้ รฟม.ยังตั้งเป้าด้วยว่า หากศาลตัดสินรับคุ้มครองฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้กระบวนการประกวดราคาถูกระงับออกไปก่อน รฟม.จะยื่นอุทธรณ์คำร้อง และหากศาลมีคำพิพากษาตัดสินไม่รับคุ้มครองฉุกเฉินตามที่บีทีเอสยื่นร้องนั้น รฟม.ก็จะเดินหน้าตามขั้นตอนประกวดราคาตามเดิม โดยมีเป้าหมายเปิดรับข้อเสนอเอกชนในวันที่ 9 พ.ย.นี้