วันนี้ (14 พ.ย.2563) พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงสรุปผลการปราบปรามการแสวงหาประโยชน์จากประชาชนโดยมิชอบในการจัดหางาน โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีผู้ตกงานจำนวนมาก ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพใช้สื่อสังคมออนไลน์หลอกลวงให้มีการไปทำงานต่างประเทศ โดยระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.2563 ตรวจสอบเป้าหมายสืบสวนพิสูจน์ตัวบุคคล รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อระบุตัวบุคคล และพบเป้าหมายกว่า 197 เป้าหมาย และระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย.2563 ติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ 130 คดี ในข้อหาโฆษณาจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ทุกคดี
สร้างโปรไฟล์น่าเชื่อถือ ลวงทำงานต่างประเทศ
สำหรับแผนประทุษกรรมของกลุ่มผู้ต้องหา จะโพสต์เฟซบุ๊กชักชวนให้คนไปทำงาน โดยสร้างความน่าเชื่อถือ ด้วยการโพสต์รูปการทำงาน โพสต์รูปเงินทอง หรือหลอกลวงว่ารายได้ดี งานสบาย เมื่อมีแรงงานหลงเชื่อติดต่อไป ก็จะมีการขอค่าดำเนินการต่าง ๆ และค่าเครื่องบิน รวมคนละ 10,000-20,000 บาท โดยมีคดีสำคัญ เช่น คดีบริษัท Kingdom and travel มีการจัดตั้งเป็นบริษัท ระบุที่อยู่ชัดเจน มีเพจเฟซบุ๊ก หรือแอปพลิเคชั่นไลน์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยลงสมัครชักชวนให้ไปทำงานต่างประเทศ อ้างมีรายได้ผลตอบแทนสูง จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อ 45 คน มูลค่าความเสียหาย 4,500,000 บาท ขณะนี้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว 3 คน
ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตือนผู้ที่จะไปทำงานในต่างประเทศ ให้รับรู้ถึงแผนประทุษกรรมเพื่อให้สามารถป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อได้ โดยหาข้อมูลบริษัทจัดหางานที่ถูกต้องได้ที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ จากสถิติของกรมการจัดหางาน ช่วงปี 2561-2563 ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์เกี่ยวกับการหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศกว่า 1,500 เรื่อง