วันนี้ (24 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.นครศรีธรรมราช และ สภ.เกาะทวด พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ นำหมายค้นจากศาลจังหวัดปากพนัง เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่หมู่ 6 ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา หลังพบข้อมูลว่าเป็นแหล่งผลิต "หัวน้ำหวาน" ผสมสารเสพติดสี่คูณร้อย โดยภายในบ้านพบแกลลอนบรรจุของเหลวสีแดง ลักษณะคล้ายน้ำเชื่อม พร้อมต้นพืชกระท่อมและน้ำเชื่อมที่ยังไม่ผ่านการผสมยี่ห้อหนึ่ง
น.ส.สราลี ทองบางพระ อายุ 28 ปี ผู้อาศัย ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ได้ซื้อน้ำเชื่อมหรือหัวน้ำหวานจากเพื่อน มาเป็นส่วนผสมต้มกับน้ำกระท่อมเพื่อดื่มกันเอง หลังจากนั้นจึงเริ่มทดลองผสมขาย โดยสามีได้ใช้ยาชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "ยาฝาทอง" เป็นส่วนผสมหลัก แบ่งขายให้กับผู้ซื้อในราคาลิตรละ 500-700 บาท โดยส่งขายผ่านระบบขนส่งพัสดุเอกชนให้กับผู้ซื้อในต่างจังหวัดด้วย ตำรวจจึงควบคุมตัว น.ส.สราลี พร้อมตั้งข้อหาผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
จากการตรวจสอบของตำรวจยังพบว่า ปี 2562 นายสามารถ อธิตัง สามีของ น.ส.สราลี เคยถูกจับกุมด้วยพฤติการลักษณะเดียวกัน ครั้งนั้นถูกตั้งข้อหาขายยาแผนปัจจุบัน ผลิตหัวน้ำหวานผสมยาแก้ไอใส่ในน้ำกระท่อมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผลตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่ามีการผสมสาร "มีทราจีไน" และ "คลอเฟนิรามีน" หรือยาอันตรายกลุ่มยาแก้แพ้ ลำดับที่ 32 ตามบัญชียาอันตราย
การจับกุมครั้งนี้สอดคล้องกับข้อมูลที่ TheEXIT ได้นำเสนอ หลังได้รับแจ้งจากคนในพื้นที่ก่อนการเข้าจับกุมว่า พบเห็นการลักลอบผลิตและจำหน่ายหัวน้ำหวาน เพื่อนำไปผสมน้ำกระท่อมขาย
ชาวบ้าน อ.ปากพนัง คนหนึ่งให้ข้อมูลกับทีมข่าวถึงส่วนประกอบและวิธีทำสี่คูณร้อย โดยเขาระบุว่า ส่วนประกอบที่เห็นในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งเดิมผู้สูงอายุในพื้นที่ต้มใบกระท่อมกับน้ำเปล่า ดื่มเพื่อรักษาโรค ไม่มีส่วนผสมอื่น แต่ปัจจุบันถูกดัดแปลงใส่ส่วนผสมหลายอย่าง รวมไปถึง "หัวน้ำหวาน" ที่ถูกนำมาใช้แทนยาแก้ไอ และยังหาซื้อได้ง่ายในชุมชน เพราะเป็นสูตรที่วัยรุ่นในพื้นที่ทำขึ้นเอง
จากเบาะแสที่ได้ในครั้งนั้น ทีมข่าวเฝ้าสังเกตบ้านเป้าหมายต้องสงสัย จนพบพฤติกรรมเข้าข่ายว่ามีการลักลอบจำหน่าย "หัวน้ำหวาน" ตามเบาะแส โดยในช่วงเวลากลางคืน มีรถเข้า-ออกบ้านหลังดังกล่าวเป็นจำนวนมาก บุคคลที่เข้าไปภายในบ้านส่วนใหญ่ออกมาพร้อมถุงหรือถังที่บรรจุน้ำสีแดง ตามที่ชาวบ้านให้เบาะแส
ล่าสุด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับผลการตรวจตัวอย่าง "หัวน้ำหวาน" ซึ่งส่งไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 สุราษฎร์ธานี โดยพบว่ามีส่วนผสมของตัวยาคลอร์เฟนิรามีน (Chlorpheniramine) จัดเป็นยาอันตรายตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ลำดับที่ 32
ภายหลังการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เดินหน้าตรวจสอบขยายผลเพื่ิอเชื่อมโยงไปถึงแหล่งจำหน่ายสารตั้งต้นในการนำมาผลิตหัวน้ำหวาน เนื่องจากตามกฎหมายตัวยาคลอร์เฟนิรามีน จัดเป็นยาอันตรายที่ต้องควบคุมการขาย และต้องมีเภสัชกรสั่งจ่ายยาเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
THE EXIT : ลักลอบผลิต "หัวน้ำหวาน" สี่คูณร้อย ตอน 1
THE EXIT : ลักลอบผลิต "หัวน้ำหวาน" สี่คูณร้อย ตอน 2
กรมวิทย์ฯ ตรวจสอบสารตั้งต้น “หัวน้ำหวาน” พบยาอันตราย