วันนี้ (2 ธ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาสมัคร ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง และผู้สูงอายุ ที่อาศัยในพื้นที่ตำบลหินตก ซึ่งถูกน้ำเข้าท่วมบ้าน โดยต้องใช้วิธีการไต่เชือกเนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวแรง และต้องใช้ความระมัดระวัง
ชาวบ้านบอกว่า น้ำเข้าท่วมตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (1 ธ.ค.) จนถึงขณะนี้ มีพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจอย่างตลาดสามร้อยกล้า ตำบลหินตก ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แม้จะมีการก่อสร้างกำแพงป้องกันน้ำเข้าบ้าน แต่ชาวบ้านบอกว่าครั้งนี้น้ำมาปริมาณมากและไหลเชียว จึงมีน้ำไหลเข้าบ้าน ได้รับความเสียหาย และปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจารระบบระบายน้ำมีปัญหา
ขณะที่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช น้ำเริ่มเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา และเพิ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทางจังหวัดประกาศแจ้งเตือนประชาชนในเขตเมืองให้เตรียมรับมือล่วงหน้า เนื่องจากมีมวลน้ำป่าจากเทือกเขาหลวง ไหลผ่านลำคลองท่าดี อ.ลานสกา
ล่าสุดพบว่า ทั้งโรงพยาบาลมหาราช สนามบินนครศรีธรรมราช ต่างได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว และประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้วทั้ง 23 อำเภอ
อย่างไรก็ตาม ตลอด ถ.เพชรเกษมตั้งแต่อ.ชะอวด จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ และทุ่งสง 2 ข้างทางเต็มไปด้วยน้ำที่เข้าท่วม บางจุดที่ถนนเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะบริเวณถ้ำผาทอง ซึ่งเป็นเส้นหลักเดินทางยังทุ่งสง และจังหวัดอื่นๆ รถขนาดเล็กต้องจอดรอดูสถานการณ์ เพราะมีรถยนต์หลายคันที่จอดได้รับความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 12.30 น. น้ำป่าไหลหลากบริเวณน้ำตกอ้ายเขียว เขตอุทยานแห่งชาติเทือกเขาหลวง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านที่ตั้งอยู่ติดกับเทือกเขาถูกน้ำท่วม
ขณะที่ชาวชุมชนเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช บางส่วนเริ่มอพยพออกจากบ้าน เนื่องระดับสูบขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับการแจ้งเตือนจากทางจังหวัดว่า มวลน้ำป่าขนาดใหญ่จากเทือกเขาหลวง ไหลผ่านลำคลองท่าดี อ.ลานสกา จะไหลมาถึงตัวเมืองในเวลา 19.00 น.
ล่าสุดปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมเกือบทุกชุมชน รวมถึงถนนสายหลักในเขตตัวเมืองปริมาณน้ำสูงอย่าง 80 ซ.ม.
เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน บรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเครื่องสูบแรงดันน้ำกระแสไฟฟ้า กว่า 90 เครื่อง เร่งระบายน้ำลงสู่ลำคลอง ก่อนไหลลงสู่ทะเล เพื่อรองรับปริมาณน้ำป่า ที่จะไหลลงมาสมทบ
ล่าสุดมีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ ครอบคลุมครบทั้ง 23 อำเภอในค่ำคืนนี้ มีประชาชนได้รับเดือดร้อนแล้วกว่า 20,000 ครอบครัว หรือกว่า 60,000 คน
บ้านเรือนจำนวนมากถูกน้ำท่วมชั้นล่าง และขนข้าวของหนีน้ำไม่ทันได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะร้านค้าที่มีสินค้าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เร่งเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว
ขอบคุณภาพร้านค้าจากคุณ Kanet Jongjit