วันนี้ (30 ธ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติดใช้อุปกรณ์เจาะตู้โทรศัพท์ที่บรรจุอยู่ในกล่อง เตรียมส่งพัสดุ หลังสืบสวนขยายผลจับผู้ต้องหาทีมลำเลียงยาเสพติดได้ 6 คน โดยทั้งหมดจะลำเลียงยาเสพติดจากภาคอีสาน ผ่านพื้นที่ภาคกลาง ลงไปสู่ภาคใต้ เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่ 3
โดยครั้งนี้ตำรวจเฝ้าพฤติกรรมของกลุ่ม จนพบว่ามีการนำยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านชายแดนภาคอีสานทางฝั่งแม่น้ำโขง และนำยามาพักไว้ที่ จ.ขอนแก่น พร้อมกับบรรจุลงในตู้โทรศัพท์ โดยว่าจ้างบริษัทรับฝากพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งให้นำสินค้าไปส่งที่ จ.นราธิวาส
พบเคยส่งตู้โทรศัพท์ที่ซ่อนไอซ์ไปไต้หวัน
ตำรวจจึงเฝ้าติดตามจนถึงปลายทาง พบว่าผู้ต้องหานำสินค้าทั้งหมดไปเก็บไว้ในบ้านพักหลังหนึ่ง เพื่อส่งต่อให้กับเครือข่ายเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 เมื่อตรวจสอบของกลางพบตู้โทรศัพท์ 154 เครื่อง ด้านในมีทั้งไอซ์ 500 กิโลกรัม, ยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด, ยาอี 200 เม็ด และเคตามีน 1 กิโลกรัม
ทั้งนี้ พบว่าเครือข่ายนี้เคยส่งตู้โทรศัพท์ที่ซ่อนไอซ์ 160 กิโลกรัม ไปที่ไต้หวันมาแล้วครั้งหนึ่ง ตำรวจจึงเก็บข้อมูลไว้และประสานกับทางการไต้หวัน จนนำมาสู่การขยายผลจับผู้ต้องหา และยึดของกลางในครั้งนี้ได้อีกครั้ง
อาศัยช่วงเทศกาลปีใหม่ลอบขนยาเสพติด
พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เครือข่ายนี้พบว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ต้องหาอาศัยช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการขนส่งพัสดุเป็นจำนวนมากในการลำเลียงยาเสพติด โดยซุกซ่อนไปในสิ่งของต่างๆ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้สั่งการแล้ว ขณะที่ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าเป็นผู้ลำเลียงพัสดุไปส่งที่ จ.นราธิวาส แต่อ้างว่าไม่รู้ว่ามียาเสพติดอยู่ด้านใน
นอกจากนี้ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังสามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้อีกหลายคดี รวมทั้งหมด 6 คดี ผู้ต้องหา 11 คน ยาบ้ากว่า 1.8 ล้านเม็ด, ไอซ์ 500 กิโลกรัม, ยาอี 200 เม็ด, โคเคน 1.5 กิโลกรัม และเคตามีน 1 กิโลกรัม