เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2564 ทีมข่าวไทยพีบีเอส สำรวจจับจ่ายของประชาชน หลังรัฐบาลขอให้ประชาชนล็อกดาวน์ตัวเอง อยู่บ้าน 14 วัน ไม่พบประชาชนตื่นตระหนกแห่กักตุนสินค้าเหมือนครั้งก่อน แต่ส่วนใหญ่ซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อลดการเดินห้างฯ ลง ขณะที่ห้างค้าปลีก ยืนยันว่าสินค้ามีเพียงพอและสต็อกสินค้าเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10
จากการสำรวจบรรยากาศจับจ่ายของประชาชนในซูเปอร์มาร์เก็ต พบว่าเป็นไปตามปกติ ไม่มีการซื้อเพื่อกักตุนสินค้าเหมือนที่มีการล็อกดาวน์รอบแรก เพราะทราบว่าไม่มีการปิดซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ปริมาณการซื้อเพิ่มขึ้น เพื่อลดความถี่ในการออกมาที่ห้างฯ เหลือเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
ส่วนสินค้าที่ซื้อ จะเน้นสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่มีราคาถูก เพราะมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี โรคระบาดยังไม่คลี่คลาย จึงต้องควบคุมค่าใช้จ่าย
ประชาชนไม่ตื่นตระหนกเหมือนครั้งก่อน
น.ส.สลิลลา สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส เปิดเผยว่า จากการประเมินยอดซื้อ และยอดคนเข้าห้าง ไม่พบว่าประชาชนตื่นตระหนกเหมือนการล็อกดาวน์ครั้งก่อน เพราะเข้าใจว่าซูเปอร์มาร์เก็ตยังเปิดให้บริการถึงเวลา 22.00 น. และสินค้ามีเพียงพอ เพราะได้เพิ่มสต็อกสินค้าร้อยละ 10 จากปกติ
ส่วนพฤติกรรมของผู้บริโภค พบว่า ความถี่ในการเข้าใช้บริการไม่บ่อย แต่ปริมาณการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ต่อครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
ส่วนในจังหวัดที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม น.ส.สลิลลากล่าวว่า ยังเปิดให้บริการปกติ ปิดเฉพาะร้านอาหารในซูเปอร์มาร์เก็ต ยกเว้นจังหวัดพื้นที่เสี่ยงต่ำที่ยังบริการ แต่ปรับที่นั่งเดี่ยว เพื่อนั่งรับประทาน แต่เป็นไปตามกำหนดเวลาของภาครัฐ
ขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มการควบคุมพนักงานขนส่งสินค้า พนักงานให้บริการ เพื่อไม่ให้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และยังติดตั้งเครื่องสแกนอุณหภูมิ สวมใส่หน้ากากอนามัย และสแกนคิวอาร์โค้ดทุกคนก่อนเข้าใช้บริการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สมุทรสาครพบติดเชื้อเพิ่ม 470 คน ค้นหาเชิงรุก
เชียงใหม่ติด COVID-19 เพิ่ม 1 คน ไปตลาดนัด สถานบันเทิงหลายแห่ง
"สาธิต" เผยนายกฯ-ศบค. อนุมัติ "ล็อกดาวน์ 5 จังหวัด"