วันนี้ (22 ม.ค.2564) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ระบุว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยเพิ่ม 309 คน จำนวนนี้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 297 คน ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 คน รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 13,104 คน หายป่วยแล้ว 10,224 คน เสียชีวิตสะสม 71 คน
ล่าสุด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม 2,809 คน โดยเป็นผู้ป่วยอาการหนักและใส่ท่อช่วยหายใจ 10 คน
สำหรับผู้ป่วยใหม่ 309 คน มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ หรือเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 80 คน เป็นการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 217 คน และอีก 12 คนเดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine
ผู้ป่วยใหม่ที่เดินทางมารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 80 คน อยู่ใน จ.สมุทรสาคร 49 คน กรุงเทพฯ 8 คน ตาก 5 คน ปทุมธานี 6 คน นนทบุรี 1 คน พระนครศรีอยุธยา 2 คน กาญจนบุรี 2 คน เพชรบุรี 2 คน ราชบุรี 3 คน สมุทรปราการ 2 คน ขณะที่ผู้ป่วยจากการตรวจเชิงรุก 217 คน อยู่ใน จ.สมุทรสาคร 212 คน และกรุงเทพฯ 5 คน
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2563 - 22 ม.ค.2564 มากที่สุด 5 อันดับแรกยังคงเป็น จ.สมุทรสาคร ชลบุรี กรุงเทพฯ ระยอง สมุทรปราการ และมีการแพร่กระจายเชื้อไปแล้ว 63 จังหวัด
ปูพรมตรวจเชิงรุกโรงงานสมุทรสาคร
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุข, ศบค.ชุดเล็ก และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร จะประชุมร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) เพื่อวางแผนปูพรมตรวจทั้ง จ.สมุทรสาคร ในโรงงานต่างๆ และดึงเคสที่มีการติดเชื้อแยกกักออกมา เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคโดยเร็ว โดยในสัปดาห์หน้าจะบูรณาการตรวจเชิงรุกมากขึ้น เพราะมีโรงงานและแรงงานนับหมื่นคน มีความจำเป็นต้องตรวจเพิ่มและแยกกักกัน เพื่อให้ทันภายในวันที่ 31 ม.ค.นี้ เพราะจะนำตัวเลขดังกล่าวมาใช้ตัดสินใจปรับสถานการณ์และข้อกำหนดต่างๆ ว่าจะผ่อนคลายหรือเข้มข้นขึ้น
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของกรุงเทพฯ มีจำนวนสะสม 648 คน วันนี้สถานการณ์ในกรุงเทพฯ อยู่ในระดับคงตัว โดยจะเน้นติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและกักตัวทุกคนจนครบ 14 วัน นอกจากนี้ยังมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ
มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขตที่เชื่อมโยงคือ เขตบางขุนเทียน ที่ติดกับ จ.สมุทรสาคร และมีโรงงานจำนวนมาก ดังนั้นก็มีความเสี่ยงไม่ต่างจาก จ.สมุทรสาคร จึงต้องวางแผนสุ่มตรวจ ซึ่งในสัปดาห์หน้าอาจจะเห็นตัวเลขของ 2 แห่งออกมาพร้อมกัน
ตัวเลขที่ออกมาอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง ต้องติดตามสัปดาห์หน้า ตามที่ได้รับรายงานมาจะตรวจใน 4 โรงงานที่มีผู้ป่วย Active Case Finding อยู่ก่อนแล้ว และเขตต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 5 เขต
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า โรค COVID-19 ทุกคนมีความเสี่ยง ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้ต้องป้องกันตัวเองให้ดี สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง แต่หากติดเชื้อก็ต้องเข้ารับการรักษาและกักตัว จึงขอให้ทุกคนตระหนักรู้และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ประกาศข่าวช่อง NBT ติดเชื้อ COVID-19 จ่อสวอปทั้งตึก
จันทบุรี เตือน 5 สถานที่เสี่ยง ใครไปต้องสังเกตอาการ-กักตัว
กทม.เปิดไทม์ไลน์ 16 คนติด COVID-19 นิสิต ม.ดัง เดินห้าง-ดูหนัง