จากกรณีที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุร่อนทองและพบในลำห้วยดอนแจง หมู่ 4 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี แล้วนำมา จนทำให้ประชาชนแห่กันร่อนทองจำนวนมาก ซึ่งบางคนได้บางคนไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะผิดหวังและทองที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นเศษทอง เศษพลอย และพระ จนทำให้ นายก อบต.คูบัว ต้องออกมาเตือนว่าอย่าไปหลงเชื่อและมารวมกลุ่มกันเนื่องจากเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19
วันนี้(25 ม.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพจฐณศล ธนิกกุล นายก อบต.คูบัว ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข นำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ สมุดลงบันทึก ให้ผู้ที่เดินทางมาร่อนทองในพื้นที่ เพื่อติดตามไทม์ไลน์กรณีหากมีการแพร่กระจายของเชื้อโรค COVID-19 โดยติดตั้งไว้หลายจุด เนื่องจากพื้นที่ลำห้วยดังกล่าวนั้นค่อนข้างกว้าง
จากการสอบถามนายสุพจน์ เจียมแท้ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ดอนตะโก อ.เมือง และนางสมรวย ไกรสรราช อายุ 64 ปี ยืนยันว่าในบริเวณใกล้เคียงกับลำธารมีบ้านที่รับเจียระไน เพชร พลอย และทองอยู่ เชื่อว่าเศษทองที่พบนั้นน่าจะเป็นเศษทองที่เหลือจากการเจียระไนแล้วและมีการล้างปล่อยน้ำลงท่อน้ำทิ้งแล้วไหลลงลำห้วย ส่วนทองคำที่พบเป็นจี้รูปกระต่ายและเป็นแหวนนั้นอาจจะมีคนทำหล่นไว้
ต่อมานายอานันท์ ฟักสังข์ อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณลำห้วยดังกล่าวซึ่งพบว่ามีประชาชนมาร่อนทองอยู่จำนวนมาก
นายทศพล เปิดเผยว่า ทางจังหวัดราชบุรีได้มีคำสั่งให้ทำการปิดสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากมีประชาชนมารวมกลุ่มกันเกินกว่า 100 คน เป็นอันตรายต่อการควบคุมโรคนั้น โดยเฉพาะคนที่ข้ามจังหวัดอื่นมาร่อนทอง
ส่วนประเด็นนี้ กำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตรวจสอบเรื่อง 2 ประเด็น คือ วัตถุที่พบเป็นอะไร เมื่อเป็นสินแร่จะไปเข้า พ.ร.บ.แร่ ซึ่งทางอุตสาหกรรมจังหวัดจะให้รายละเอียด โดยจะมีข้อกฎหมายในการควบคุมดูแลว่าด้วยเรื่องนี้อยู่ ไม่ใช่อยู่ ๆ จะมีคนมาร่อนแร่ได้ จะมีกฎหมายต้องขออนุญาต นายก อบต. และตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อพบตัวแร่ก็ต้องจ่ายค่าภาคหลวง ซึ่งมีกฎหมายกำกับดูแลและมีบทลงโทษอยู่
หากเข้ามาจำนวนมากคงเป็นอันตรายประชาชนในบริเวณนี้เขาจะกลัวโรค ถ้าติดโรค COVID-19 ระบาดอีก ก็จะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจกันอีก เท่าที่ทราบวัตถุที่พบก็เป็นทองรูปพรรณ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องสินแร่