วันนี้ (2 ก.พ.2564) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ระบุว่า ประเทศไทยไม่มีนโยบายแทรกแซงสถานการณ์การเมืองในประเทศเมียนมา แต่หากมีการชุมนุมเคลื่อนไหวในลักษณะที่ละเมิดกฎหมายไทย ก็จำเป็นต้องดำเนินคดี ซึ่งตำรวจจะใช้แนวทางเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับทั้งชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย และคนไทยที่อาจเข้าไปยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย
สำหรับเหตุการณ์ชุลมุนหน้าสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา มองว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น แต่เมื่อมีการกระทำผิดกฎหมาย ตำรวจก็ต้องดำเนินการตามหน้าที่ ส่วนในระยะหลังที่การชุมนุมรุนแรงมากขึ้น ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวัง และยืนยันว่าความเสียหายแต่ละครั้งที่ผ่านมามักเกิดกับตำรวจและสื่อมวลชน ขณะที่พฤติการณ์ใช้วัตถุระเบิดก่อเหตุจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้หรือไม่ อยู่ระหว่างสอบสวน
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยืนยันว่า ตำรวจได้สนธิกำลังร่วมกับทหารและฝ่ายปกครอง ดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีเหตุชี้ถึงความรุนแรง รวมถึงการอพยพเข้ามาในประเทศไทย ทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย แต่หากพบมีการลักลอบเข้าประเทศก็ต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยไม่ละเว้น
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง นำป้ายผ้าปฏิรูปสถาบันฯ ไปติดที่หน้าสถานีตำรวจภูธรภูเขียว จ.ชัยภูมิ โดยยอมรับว่า แม้จะมีการอบรบให้ความรู้ความเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไปแล้ว แต่ยังพบว่ามีตำรวจบางส่วนบกพร่อง ซึ่งผู้ที่ทำงานไม่ได้ก็ต้องปรับเปลี่ยนหน้าที่ โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งโยกย้ายผู้กำกับการตำรวจภูธรภูเขียวออกนอกพื้นที่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.ขอคืนพื้นที่ม็อบต้านรัฐประหารหน้าสถานทูตเมียนมา
จับ 3 แกนนำชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา