วันนี้ (3 ก.พ.2564) นางณิชา อวยพรรุ่งรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธ.ก.ส.ได้มีการสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้เกษตรกร โดยใช้การประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการผลิตและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นผ่านโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 ซึ่งมีเป้าหมายส่งเสริมการทำประกันภัยบนพื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศ จำนวน 45.7 ล้านไร่ นั้น
โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 ได้สิ้นสุดระยะเวลาการขอเอาประกันภัยแล้ว โดยคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ 8 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วม ฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ พายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ ช้างป่า และภัยศัตรูพืช โรคระบาดซึ่งเมื่อเกษตรกรผู้ทำประกันภัยได้รับความเสียหายจะทำการแจ้งความเสียหายที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ และเมื่อสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้รับข้อมูลรายงานความเสียหาย (ตามแบบรายงานความเสียหาย กษ 02 เพื่อการประกันภัย) ครบถ้วน จะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขที่กำหนดภายใน 15 วัน หลังจากที่ได้รับข้อมูลครบถ้วน
จากนั้น ธ.ก.ส.จะดำเนินการโอนเงินค่าสินไหมทดแทนเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรโดยตรง ซึ่งในปีการผลิต 2563 ธ.ก.ส. ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนไปแล้วจำนวน 8 ครั้ง เป็นเงินรวมกว่า 370.55 ล้านบาท มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับประโยชน์กว่า 32,000 ราย พื้นที่ปลูกข้าวกว่า 310,000 ไร่
ทั้งนี้ หาก ธ.ก.ส.ได้รับข้อมูลที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนจะเร่งดำเนินการโอนเข้าบัญชีเงินฝากเกษตรกรโดยเร็ว ให้ทันรอบการผลิตถัดไป ทั้งนี้ ปีการผลิต 2563 มีเกษตรกรให้ความสนใจทำประกันภัยข้าวนาปีจำนวนกว่า 3,400,000 ราย พื้นที่การเกษตรกว่า 44.3 ล้านไร่