วันนี้ ( 3ก.พ.64 ) พล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ภายในซอยทาวน์อินทาวน์ 3 หลังชุดสืบสวนพบเบาะแสว่า เปิดเป็นบริษัทเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ผลการเข้าตรวจค้นพบว่า พนักงานของบริษัทปล่อยเงินกู้นอกระบบ เป็นคนไทย 46 คน ซึ่งทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์ทวงถามหนี้สินจากลูกหนี้ในกรณีขาดส่งชำระดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะเดียวกันมีชาวต่างชาติเป็นชาวจีนอีก 5 คนซึ่งเป็นระดับหัวหน้าคอยดูแลและสั่งงานพนักงานคนไทย
ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น กลุ่มชาวจีนให้ข้อมูลว่า เพิ่งย้ายเข้ามาเช่าที่บ้านหลังนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนพนักงานคนไทย ได้มาจากการประกาศรับสมัครงานตามหน้าเว็บไซต์จัดหางานทั่วไป มีคนสมัครมาจำนวนมากเนื่องจากหลายคนว่างงาน จากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ส่วนผู้กู้ก็เป็นคนไทย ตรวจสอบบัญชีลูกค้าเบื้องต้นพบว่ามีลูกค้าในระบบประมาณ 5000 คน
ส่วนการปล่อยกู้เป็นลักษณะให้เงินไว ยอดไม่สูง แต่คิดดอกเบี้ยร้อยละ 12 หากผิดนัดชำระจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทวงถามด้วยการโทรทวงถามหนี้จากบุคคลอ้างอิงที่ผู้กู้แจ้งไว้ในข้อมูลผู้กู้ยืม
ด้านพนักงานที่เป็นคนไทยให้ ข้อมูลกับทีมข่าวไทยพีบีเอสด้วยว่า สำหรับการกู้ยืม มียอดขั้นต่ำ 2,000 บาท สูงสุด 20,000 บาท แต่ส่วนใหญ่กู้จริง ประมาน 2,000 - 7,000 บาท และการกู้ยืมทุกอัตราจะถูกคำนวณหักค่าธรรมเนียมการกู้ยืม และต้องใช้คืนภายใน 7 วัน ซึ่งที่ผ่านมาพบมีลูกหนี้หลายคนไม่ยอมชดใช้หนี้คืน
พนักงานยังบอกอีกว่า ผู้กู้วงเงิน 2,000-4,000 มีมากซึ่งเป็นยอดกู้ที่ไม่สูงและผู้กู้จะทราบถึงอัตราดอกเบี้ยและการทวงถามเป็นอย่างดีแต่พร้อมกู้ยืมโดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ต้องการใช้เงินด่วน
ตำรวจจะควบคุมตัว ทุกคนไปสอบปากคำตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนแจ้งข้อกล่าวหา ตามฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนหาตัวนายทุนรวมถึงหาความเชื่อมโยงกับแก๊งขบวนการปล่อยเงินกู้ที่เคยถูกจับก่อนหน้านี้ซึ่งมีการปล่อยกู้ในลักษณะเดียวกัน ว่ามีความเขื่อมโยงกันหรือไม่