วันนี้ (10 ก.พ.2564) เวลา 13.30 น. นายวราวุธ ศิลปะอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา กรณีบ้านโป่งลึก-บางกลอย ว่า กระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่อปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่า ทุกคนคือประชาชนคนไทยเช่นกัน
ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางแก้ปัญหาขึ้นมาแล้ว และเชื่อมั่นว่าจะสามารถหาทางออกร่วมกันได้ โดยไม่ต้องใช้กฎหมายแต่จำเป็นต้องอาศัยการทำความเข้าใจ และการถอยกันคนละก้าว
สำหรับพื้นที่ใจแผ่นดินนั้น เป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว ในด้านความมั่นคง เนื่องจากอยู่ชิดแนวเขตชายแดน และอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ย้ายลงมายังพื้นที่บ้านกลอย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดสรรที่ดินทำกินกว่า 1,300 ไร่ ไว้รองรับ
นอกจากนั้น ส่วนราชการในพื้นที่ รวมถึงมูลนิธิต่างๆ ได้เข้าไปจัดการเรื่องระบบสาธารณูปโภค รวมไปถึงพัฒนาอาชีพและสร้างความเป็นอยู่อีกด้วย
ปัจจุบัน ประชาชนส่วนใหญ่ที่ย้ายถิ่นฐานลงมาอยู่บ้านบางกลอยนั้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จนถึงทุกวันนี้มีรายได้ครัวเรือนเกือบแสนบาทต่อเดือน
ผมขอเรียนว่า กว่า 90 % ที่ทางภาครัฐได้เยียวยาและดูแลไปนั้น ถือว่า เราได้เดินทางมาไกลมากแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีกส่วนหนึ่ง ที่เรายังต้องมาหากลไกเยียวยาพี่น้องประชาชน ให้ได้รับความพึงพอใจเช่นกัน
นายวราวุธกล่าวด้วยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเพื่อแก้ปัญหา มิได้เข้ามาเพื่อสร้างปัญหาเพิ่มเติม ให้กับพี่น้องประชาชน และคณะกรรมการที่กระทรวงฯ ตั้งขึ้น จะได้เร่งศึกษาข้อมูล เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ยังได้รับผลกระทบอยู่ให้เร็วที่สุดต่อไป