วันนี้ (11 ก.พ.2564) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานปาฐกถาบทบาทตลาดทุนกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย 2564 ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2564 ยังต้องเผชิญผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีความหวังจากการผลิตวัคซีน และขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้จำเป็นต้องออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ แต่การแจกเงินเยียวยาไม่สามารถทำได้ตลอดไป รัฐบาลจึงพยายามผลักดันให้มาตรการเยียวยามีส่วนช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแพลตฟอร์มดิจิทัล ตั้งแต่โครงการเราไม่ทิ้งกัน, เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง, เราชนะ และเรารักกัน ส่วนผู้ที่เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน จะเปิดลงทะเบียนโครงการเราชนะในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลให้รัฐบาลต่อไป
เน้นลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
นายอาคม กล่าวว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤต COVID-19 กำลังเป็นโจทย์สำคัญของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังกำลังเร่งศึกษาแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษี ระยะที่ 2 ซึ่งมุ่งเน้นการผลักดันให้เศรษฐกิจไทบ สู่ BCG สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ประเทศ ที่จะใช้เครื่องมือภาษีเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน เช่น การจูงใจลงทุนอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ลดพฤติกรรมการใช้เชื้อเพลิงแบบเก่า เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศมีภูมิคุ้มกัน และพร้อมรับสังคมสูงอายุ ขณะเดียวกันตลาดทุนจะเป็นเครื่องมือสำคัญ ทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเงินออม แต่ขอให้ ก.ล.ต ให้ความสำคัญกับการเข้าลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล หลังพบว่าช่วง COVID-19 มีคนรุ่นใหม่เข้าลงทุนในตลาดนี้จำนวนมาก
เยียวยา ม.33 วงเงิน 3.7 หมื่นล้านบาท
นายอาคม ยังกล่าวชื่นชมนโยบายการจัดสรรหุ้น บ.ปตท.ค้าปลีกและน้ำมัน หรือ OR ซึ่งกระจายรายย่อยถึงร้อยละ 23 ของหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด หลังสังเกตเห็นผู้ร่วมสัมมนาก้มมองโทรศัพท์ในช่วงเวลาใกล้เปิดตลาดซื้อขาย "ตอนนี้ทุกคนกำลังก้ม ๆ เงย ๆ ใจจดใจจ่ออยู่กับมือถือ ลุ้นโออาร์กันอยู่ใช่ไหม"
ส่วนความคืบหน้าการออกมาตรการเยียวยาผู้ประกันตน มาตรา 33 นั้น รายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการใช้เงินกู้ตาม พ.ร.ก. เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 แล้ว โดยใช้วงเงินดำเนินโครงการกว่า 3.7 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมผู้ประกันตน 9 ล้านคน พร้อมเสนอ ครม.ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณาโยกเงินกู้จากแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจมาอยู่ในแผนเยียวยาเพิ่มขึ้น รองรับการดำเนินโครงการดังกล่าว
เช็กเกณฑ์เยียวยา ม.33
ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยถึงความชัดเจนถึงคุณสมบัติ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในโครงการ ม33เรารักกัน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 โดยรัฐบาลจะจ่ายเยียวยา รายละ 4,000 บาท พร้อมย้ำเงื่อนไขคุณสมบัติ คือ เป็นผู้มีสัญชาติไทย เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่ได้รับสิทธิโครงการ “เราชนะ” และไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันเกิน 500,000 บาท (ณ วันที่ 31 ธ.ค.63) ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิจะได้รับการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง