วันนี้ (14 ก.พ.2564) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพหมอเถื่อนรับฉีดผิวขาวให้กลุ่มวัยรุ่น โดยระบุว่า การฉีดวิตามินเข้าทางหลอดเลือด เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในสถานความงาม ซึ่งเชื่อกันว่าวิธีบริหารวิตามินหรือสารต่างๆ ทางหลอดเลือดดำ จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินหรือสารเหล่านั้นโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการดูดซึมที่ระบบทางเดินอาหาร แต่ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ ที่จะยืนยันถึงประโยชน์ของการฉีดวิตามินเข้าทางหลอดเลือดต่อผิวหนัง
นอกจากนี้ การฉีดวิตามินทางหลอดเลือดที่พบกล่าวอ้างมักประกอบไปด้วยสารหลายชนิดรวมกันเป็นสูตรต่างๆ ซึ่งสูตรเหล่านั้นยังไม่มีการยอมรับให้เป็นมาตรฐานสากลสำหรับการรักษาผิวพรรณ อีกทั้งสารประกอบบางชนิดที่นำมาใช้มีโอกาสที่จะเป็นสารที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ผ่านการรับรองความปลอดภัย และยังไม่มีการศึกษาถึงผลข้างเคียงของการฉีดวิตามินเข้าทางหลอดเลือดต่อระบบต่างๆ ของร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ที่สำคัญหากการฉีดนั้นทำโดยหมอเถื่อนหรือหมอกระเป๋า อาจเกิดการติดเชื้อได้
แพ้รุนแรงอันตรายถึงชีวิต
ขณะที่ พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อันตรายที่อาจเกิดจากการฉีดวิตามินหรือสารต่างๆ ทางหลอดเลือดดำ เช่น การแพ้สารประกอบในสูตรวิตามินทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง หากเป็นการแพ้ชนิดรุนแรง หรือ Anaphylaxis อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต หรืออาจเกิดปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่อสารประกอบในสูตรวิตามิน ซึ่งพบได้บ่อย โดยเฉพาะเมื่อบริหารเข้าหลอดเลือดในอัตราที่เร็วเกินไป
อาการเบื้องต้นที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดท้อง ใจสั่น เหงื่อแตก แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือมีผื่นขึ้นทั่วตัว นอกจากนี้การบริหารสารน้ำใดๆ ทางหลอดเลือดดำ ควรกระทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตในการทำหัตถการ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายได้
ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง แนะนำว่า สังคมควรปรับค่านิยมให้เห็นว่าผิวทุกสีก็สวยได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผิวขาวอย่างเดียว การดูแลผิวพรรณที่ถูกวิธีเริ่มต้นจากการทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี ดื่มน้ำที่เพียงพอ ทาครีมบำรุงตามความจำเป็น เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นเหมาะสม ลดปัจจัยต่างๆ ที่อาจจะทำลายผิว เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดดที่แรงและมลภาวะต่างๆ เป็นต้น