วันนี้ (23 ก.พ.2564) นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการวินัยและจรรณยาบรรณสมาชิกพรรคก้าวไกล ครั้งที่ 2/64 ว่า การประชุมในวันนี้เป็นวาระปกติ แต่ดังที่ทราบกันดีว่าในการลงมติตามญัตติอภิปรายไม่ไว้วางในรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มีสมาชิก 4 คน ได้แก่ นายคารม พลพรกลาง, นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ, นายพีรเดช คำสมุทร และนายขวัญเลิศ พานิชมาท ได้ลงมติไว้วางใจ นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่พรรคก้าวไกลเป็นผู้อภิปราย และเห็นสอดคล้องกันว่านายอนุทิน เป็นผู้บริหารจัดการวัคซีนผิดพลาด เอาประชาชนไปกระจุกเสี่ยงจากวัคซีนแหล่งเดียว ไม่สนใจคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถ ขาดความโปร่งใส ขัดขวางกลไกการตรวจสอบ ทั้งที่เงินทุกบาทที่ซื้อวัคซีนล้วนเป็นเงินภาษีที่มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชน
และหากมีการฉีดวัคซีนล่าช้าจะส่งผลให้ปัญหาปากท้องลากยาวไม่จบสิ้น ประชาชนทุกข์ยากแสนสาหัส คนตกงาน สูญเสียอาชีพ รายได้ฝืดเคือง และทำมาหากินด้วยความยากลำบาก จึงทำให้ไม่อาจไว้วางใจได้ ซึ่งการลงมติไว้วางใจดังกล่าวยังขัดกับความรู้สึกของประชาชน สมาชิก และผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลจำนวนมาก จึงทำให้ต้องนำเอาพฤติการณ์ของสมาชิกทั้ง 4 คน เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวินัยฯ ในครั้งนี้ด้วย
4 ส.ส.ขาดการร่วมกิจกรรมพรรคต่อเนื่อง
สำหรับผลการประชุม คณะกรรมการวินัยฯ ทั้ง 5 คน มีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ภายหลังการลงมติดังกล่าว สมาชิกทั้ง 4 คน มีการให้ข้อมูลต่อสาธารณะและสื่อมวลชนเพิ่มเติมในหลายครั้งหลายวาระ ซึ่งจากการตรวจสอบรายละเอียดพบว่ามีข้อความหลายประการที่ส่งผลเสียหาย โดยเฉพาะต่ออุดมการณ์และแนวทางทำงานของพรรค
นอกจากนี้ ยังพบว่าสมาชิกทั้ง 4 คน ได้ขาดการร่วมกิจกรรมต่างๆ ของพรรค รวมถึงขาดการเข้าร่วมประชุมพรรคอย่างต่อเนื่องและยาวนานพอสมควร ซึ่งทางพรรคมีข้อมูลหลักฐานที่บันทึกไว้อย่างชัดเจน โดยพฤติกรรมเหล่านี้เข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงตามข้อบังคับพรรค ข้อ 119
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม
กล่าวคือหากเป็นการทำผิดวินัยทั่วไป คณะกรรมการวินัยฯ มีสิทธิลงโทษได้ 4 อย่าง ได้แก่ การตักเตือน การภาคทัณฑ์ การตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรคการเมือง และการให้พ้นสมาชิกภาพจากพรรคการเมือง ส่วนกรณีกระทำผิดวินัยร้ายแรง คณะกรรมการวินัยฯ มีสิทธิลงโทษได้ 2 อย่าง คือการตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรคการเมือง และการให้พ้นสมาชิกภาพจากพรรคการเมือง
ไม่ส่งเลือกตั้งครั้งหน้า - ถอด นพ.เอกภพ
สำหรับสมาชิกทั้ง 4 คน คณะกรรมการวินัย เห็นตรงกันว่าให้ตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรคการเมือง ส่วนสาเหตุที่ไม่ตัดสินให้พ้นจากสมาชิกภาพพรรคการเมืองนั้น เหตุผลเป็นไปตามที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคให้เหตุผลก่อนหน้านี้ คือเพื่อไม่ให้มีผลต่อสัดส่วนการทำงานต่างๆ ในการขับเคลื่อนทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร
เพื่อไม่ให้เป็นการเตะหมูเข้าปากหมาสมประโยชน์นักการเมืองและพรรคการเมืองที่กำลังทำการเมืองแบบเก่าและรอคอยอยู่
ทั้งนี้ รายละเอียดบทลงโทษ ในส่วนของพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรค รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคจะไม่ส่งสมาชิกทั้ง 4 คน ลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งถัดไปและจะดำเนินการตามระเบียบพรรค เพื่อให้ถอด นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ออกจากการเป็นรองเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นอำนาจเลขาธิการพรรคดำเนินการ
ห้ามใช้ชื่อพรรคทำกิจกรรมทางการเมือง
นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลไม่อนุญาตให้สมาชิกทั้ง 4 คน เข้าร่วมกิจกรรมและไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อพรรคในการทำกิจกรรมต่างๆ ทางการเมือง รวมถึงส่วนที่เป็นโควต้าเวลาของพรรคการเมือง เช่น การปรึกษาหารือ การตั้งกระทู้ถามสด การนั่งเป็นกรรมาธิการคณะต่างๆ หรือการอภิปรายในสัดส่วนโควต้าของพรรค พรรคขอตัดสิทธิในสัดส่วนเหล่านี้
สำหรับสมาชิกทั้ง 4 และในฐานะรองหัวหน้าพรรค ขอเรียนว่าเพื่อให้การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง พรรคจึงขอสงวนสิทธิในการส่ง ส.ส. หรือสมาชิกพรรคลงทำงานในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จ.เชียงราย และ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของสมาชิกทั้ง 4 คนทันที
ขอยืนยันอีกครั้งว่า การกระทำผิดดังกล่าว เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ มีความชัดเจน มีข้อมูล มีพยานหลักฐาน คณะกรรมการวินัยจึงของตัดสินโทษต่อสมาชิกทั้ง 4 ดังที่แจ้งไว้ต่อสื่อมวลชน