จากกรณีที่ผู้ปกครองชาว อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ นำหลักฐานคลิปวีดีโอที่ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ และข้อความแชทสนทนาระหว่างครูประจำชั้นกับลูกสาวของตัวเอง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.กระสัง ให้ดำเนินคดีกับนายโอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ครูประจำชั้นและครูสอนวิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง อ.กระสัง ระบุหลอกล่อกระทำชำเรา ด.ญ.บี (นามสมมติ) ลูกสาวของตัวเอง ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 และแอบถ่ายคลิปขณะครูล่วงละเมิดลูกสาวในห้องน้ำไปแชร์ในสื่อโซเชียลอีกด้วย
ต่อมาครูที่ถูกกล่าวหา เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยห้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เพราะจำนนด้วยหลักฐาน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำชำเราเด็กซึ่งเป็นลูกศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองและผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ
ตั้ง กก.สอบวินัยร้ายแรง-พักราชการ
วันนี้ (11 มี.ค.2564) นางวิมลมาลย์ รินไธสง ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากทางโรงเรียนได้สรุปผลการสืบข้อเท็จจริงส่งมายังทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาต้นสังกัด ว่า ครูที่ถูกกล่าวหามีมูลกระทำความผิดจริง ทางสำนักงานเขตมัธยมฯ ก็ได้ทำเรื่องส่งมายังศึกษาธิการจังหวัด
ล่าสุดวันนี้ ทางศึกษาธิการจังหวัดจึงได้มีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และสั่งให้ครูคนดังกล่าวพักราชการไว้ก่อนโดยมีผลภายในวันนี้ (11 ม.ค.) เพื่อให้การสอบวินัยร้ายแรงเป็นการโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากผลการสอบวินัยพบว่าครูคนดังกล่าวกระทำความผิดจริง จะมีบทลงโทษตามระเบียบที่กำหนดไว้ คือ ไล่ออก หรือปลดออก ส่วนการดำเนินคดีเป็นไปตามกระบวนการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ห่วงสภาพจิตใจเด็กผู้เสียหาย
ศึกษาธิการจังหวัด ยังระบุอีกว่า นอกจากจะดำเนินการเรื่องวินัยแล้ว สิ่งที่เป็นห่วงคือสภาพจิตใจของเด็กผู้เสียหาย ซึ่งทางศึกษาธิการจังหวัดได้สั่งการให้ทางโรงเรียนจัดครูแนะแนว ร่วมกับทีมนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลเยียวยาเรื่องสภาพจิตใจของเด็ก พร้อมทั้งดูเรื่องการเรียนควบคู่ไปด้วย ช่วงที่เด็กยังไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนได้ก็ให้ทำการเรียนการสอนที่บ้านก่อนชั่วคราว