#JusticeForVicha - #AsiansAreHuman
ช่วงปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ติดแฮชแท็ก #AsiansAreHuman และ #JusticeForVicha เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมด้านสิทธิมนุษยชนและต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติหลังเกิดกรณี "วิชา รัตนภักดี" ชายไทยวัย 84 ปี ซึ่งเดินออกกำลังกายบริเวณถนนแอนซา วิสตา ตัดกับถนนฟอร์ทูนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ถูก "แอนตวน วัทสัน" วัย 19 ปี เดินข้ามถนนเข้าไปทำร้ายนายวิชาจนล้ม ก่อนหลบหนีไป นายวิชา บาดเจ็บสาหัส และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล สุดท้ายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2564 ส่งผลให้นายกเทศมนตรีเมืองซานฟรานซิสโก ประณามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น
ภายหลังแม้ตำรวจซานฟรานซิสโก จับผู้ก่อเหตุได้ พร้อมตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้สูงอายุ ใช้อาวุธร้ายแรง รวมทั้งข้อหาฆาตกรรม แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมในการขับเคลื่อนเพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและสร้างความหวาดกลัวให้ชาวเอเชียในสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก
ด้านครอบครัวและชุมชนไทยในสหรัฐฯ มองว่าเหตุการณ์นี้ เกี่ยวข้องกับความเกลียดชังทางเชื้อชาติ โดยเอริค ลอว์สัน ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ระบุในการระดมทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในพิธีศพว่าตั้งแต่สถานการณ์ COVID-19 ครอบครัวเขาถูกคุกคามทางวาจามาโดยตลอด จากกลุ่มเกลียดชังคนเชื้อสายเอเชีย และครั้งนี้ส่งผลถึงชีวิต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โซเชียลรณรงค์ #AsiansAreHuman ต้านการเหยียดคนเอเชีย
#Atlantashooting - #AntiAsianRacism
วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุสะเทือนขวัญชาวเอเชียอีกครั้ง หลังมีผู้ก่อเหตุกราดยิงในสปา 3 แห่ง เมืองแอตแลนตา ในรัฐจอร์เจีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และอย่างน้อย 6 คน เป็นหญิงชาวเอเชีย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลให้เหล่าคนดังจากหลายประเทศแสดงจุดยืนต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติผ่านสื่อสังคมออนไลน์ผ่าน #Atlantashooting - #AntiAsianRacism
ขณะที่กลุ่มชาวอเมริกันในมินนิอาโพลิส รัฐมินนิโซตา และหลายรัฐในสหรัฐฯ รวมตัวเดินขบวนไปตามท้องถนน เพื่อแสดงพลังสนับสนุนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและรณรงค์ให้ยุติการเกลียดชังชาวเอเชีย โดยโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประณามอาชญากรรมที่เกิดจากการเหยียดเชื้อชาติจนไปนำสู่การคุกคามชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย พร้อมสั่งให้ทำเนียบขาวและอาคารที่ทำการของรัฐอื่น ๆ ลดธงครึ่งเสา เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กราดยิงสปา 3 แห่งในสหรัฐฯ เสียชีวิต 8 คน เป็นหญิงเอเชีย 6 คน
ผ่านไปเพียง 2 วัน เกิดเหตุอุกอาจอีกครั้ง เมื่อเสี่ยว เจิ้น เซีย หญิงเชื้อสายจีน วัย 76 ปี ถูกสตีเวน เจนกินส์ ชายอเมริกัน วัย 39 ปี ชกเข้าที่ใบหน้าในระหว่างยืนรอสัญญาณไฟจราจร บริเวณย่านใจกลางซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่เสี่ยว เจิ้น เซียจะหยิบไม้ในบริเวณดังกล่าวมาใช้ป้องกันตัวและตีผู้ก่อเหตุจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจ ระบุว่า ผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายร่างกายชายเชื้อสายเอเชีย วัย 83 ปี ในย่านใกล้เคียง เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่จะก่อเหตุทำร้ายร่างกายเธอ
ภายหลังเกิดเหตุ หลานชายของเสี่ยว เจิ้น เซียประกาศระดมเงินบริจาคผ่านเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อขอความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล แต่มีรายงานว่า เสี่ยว เจิ้น เซียตัดสินใจนำเงินบริจาคทั้งหม 921,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 28.5 ล้านบาท มอบให้กับชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย เพื่อต่อสู้กับปัญหาการเหยียดเชื้อชาติที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สหรัฐฯ ลดธงครึ่งเสา - เดินขบวนประท้วงต้านเหยียดเชื้อชาติ
#AsianLivesMatter - #StopAsianHate
ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2564 กรมตำรวจนิวยอร์กเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าหาผู้หญิงริมทางเท้าและลงมือทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ถีบเข้าที่ท้องจนผู้เสียหายล้มลงไปกับพื้นและทำร้ายที่ใบหน้าอีกหลายครั้ง พร้อมตะโกนถ้อยคำด่าทอชาวเอเชีย ก่อนจะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในย่านแมนฮัตตัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยหญิงเคราะห์ร้ายอายุ 65 ปี และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอาการบาดเจ็บสาหัส
ขณะที่เจ้าของอาคารแห่งนี้ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ได้ เปิดเผยว่า ได้สั่งพักงานลูกจ้างในภาพที่เพิกเฉย ปิดประตูใส่ และไม่เข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงคนดังกล่าวแล้ว
ขณะที่ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเร่งสืบสวนกรณีชายทำร้ายชาวเอเชียบนรถไฟใต้ดินในบรุกลิน ซึ่งมีผู้ถ่ายภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้และเผยแพร่บนแอปพลิเคชัน TikTok โดยมีคนเข้าไปรับชมแล้วหลายล้านครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังมีเหตุการณ์ที่ชาวเอเชียถูกทำร้ายอีกจำนวนมากแม้จะผ่านปี 2021 ไปเพียง 3 เดือน โดยตำรวจนิวยอร์ก เปิดเผยว่า ในปีนี้มีรายงานเหตุอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังชาวเอเชียแล้ว 33 ครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อีกแล้ว! หญิงเอเชียวัย 65 ปี ถูกทำร้ายริมทางเดินในนิวยอร์ก