คพ.เก็บหลักฐานจ่อฟ้องแพ่งโรงงานพลาสติกปล่อย "ควันพิษ"

กรณีเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงานพลาสติกในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 39 ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.ซึ่งเป็นโรงงานเม็ดพลาสติกและโฟม เมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) ซึ่งระหว่างเพลิงไหม้ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการควบคุมเพลิง และพบมีกลุ่มควันสีดำลอยไกลมองเห็นได้ชัดเจน

วันนี้ (17 พ.ค.2564) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ได้เข้าตรวจสอบสารมลพิษตกค้าง โดยนำเครื่องตรวจวัดไอระเหย กลุ่มสารประกิอบอินทรรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ในบรรยากาศ เนื่องจากบริษัทแห่งนี้ผลิตเม็ดพลาสติก และพลาสติก แต่เนื่องจากช่วงระหว่างการเผาไหม้ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ทันเวลา ทำให้ไม่พบตัวสาร VOCs ซึ่งวันพรุ่งนี้ (18 พ.ค.) ทางคพ.ลงเก็บข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมทั้งเรื่องน้ำที่ฉีดดับไฟ ตัวขี้เถ้าที่ตกค้างในพื้นที่โรงงาน และสิ่งแวดล้อมรอบๆพื้นที่ 

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า  ช่วงไฟไหม้ทุกคนเห็นชัดเจนว่ากลุ่มควันที่ลอยดำบนท้องฟ้าหลายชั่วโมง และพัดไตามทิศทางลม ถือว่าก่อมลพิษทางอากาศ และมีสารมบพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5 สารประกอบไฮโดรคาร์บอน และที่น่าห่วงคือสารมลพิษจากโรงงานเม็ดพลาสติก ดังนั้นจึงอาจจะมีสารมลพิษตกค้างในสิ่งแวดล้อมได้

ภาพ: กรมควบคุมมลพิษ (คพ.)

ภาพ: กรมควบคุมมลพิษ (คพ.)

เร่งเก็บหลักฐาน-เล็งฟ้องแพ่งปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม

ดังนั้นจึงให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาข้อกฎหมาย และเก็บพยานหลักฐานต่างๆด้วยการคำนวณจากพลาสติก เม็ดพลาสติกที่ถูกเผาไหม้ออกมา และคำนวณออกมาว่าปริมาณของเหล่านั้ันจะทำให้ปล่อยมลพิษทางอากาศออกมาแค่ไหน

ถึงแม้เพลิงไหม้โรงงานเม็ดพลาสติกจะเป็นเหตุสุดวิสัย แต่มลพิษทางอากาศจากการเผามลพิษออกมาสามารถตกค้างในสิ่งแวดล้อมได้ ทางคพ.จะให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ถ้ามีครบถ้วนเพียงพอจะฟ้องแพ่งโรงงานแห่งนี้ตามมาตรา 96 และมาตรา 97 ของพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535

นายอรรถพล กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเหตุการไฟไหม้ขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดมลพิษลงสู่สิ่งแวดล้อม แต่ยังไม่มีการฟ้องร้องเอาผิด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องรับผิดชอบ ถ้ามีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอ ทางคพ.จะพิจารณาฟ้องร้องความรับผิดชอบทางแพ่งที่ปลดปล่อยสารอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป 

เร่งดับไฟไหม้โรงงานพลาสติก ย่านสุขาภิบาล 5