เเม้ออกมาขายของจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 แต่เพื่อความอยู่รอด ทำให้หลายร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ยังต้องออกมาตั้งแผงขายของเพื่อหารายได้
แม่ค้าหาบเร่แผงลอยระบุว่า ยังต้องเตรียมวัตถุดิบและออกมาขายทุกวันและตั้งแต่สถานการณ์ COVID-19 ระบาด ขายขนมได้น้อยลง จากที่เคยขายได้วันละ 10 กิโลกรัม ช่วงนี้ลดลงมาเหลือ 5 กิโลกรัม และยังต้องใช้เวลาวางขายนานกว่าเดิมรายได้ที่เหลือก็ลดลงไปกว่าครึ่งเช่นกัน
"ยอดขายลดลงกว่าเมื่อก่อน คนก็ไม่ค่อยกล้าออกมาซื้อ เมื่อก่อนขายดีนี่ก็ลดลงไปเยอะจากที่เคยขายได้ 1,000 บาท ก็เหลือ 500 บาท ลดลงกว่าครึ่งเลย และตระเวนขายเราก็เสี่ยงก็กลัวเหมือนกัน แต่ก็ต้องหาไม่หาจะทำอย่างไร"
ส่วนร้านขายเกี๊ยวร้านนี้ที่อยู่ใกล้ ๆ ระบุว่า ต้องลดจำนวนวัตถุดิบจากที่เคยมีรายได้เหลือเข้ากระเป๋าไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทช่วงนี้ลดลงไปมากแต่ก็ต้องยอมรับเพราะยังมีภาระค่าใช้จ่ายรออยู่ทุกวัน
"ช่วงนี้ก็ต้องประหยัด เรื่องเที่ยวนี่ตัดไปเลย ชีวิตหนูไม่มีคำว่าเที่ยวแล้ว ตอนนี้ก็ต้องหาเงินใช้ หนี้สินเราก็มี ต้องสร้างตัวบ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ มันก็ต้องสู้ไป ตอนนี้รายได้ก็พอบ้างไม่พอบ้างแต่ก็ไม่เหลือพอที่จะไปทำอะไรได้"
นอกจากของกินที่ขายไม่ค่อยดีเเล้ว เจ้าของแผงขายดอกไม้ก็ตกที่นั่งเดียวกัน โดยระบุว่า ลูกค้าประจำ เช่น ร้านนวด ร้านสปา ปิดให้บริการทำให้ยอดขายก็ลดลง เเต่รายจ่ายสำคัญคือค่าเช่าที่ยังต้องจ่ายเต็ม
"จากคนที่เขาเคยไหว้เขาก็ไมได้ไหว้ เพราะเขาก็ประหยัดเงิน แบบลูกค้าประจำเขาเคยซื้อก็ไมได้ซื้อ ไม่ได้ไหว้ อย่างร้านนวด ที่เราไปส่งประจำพอเขาไม่รับยอดขายเราก็ตกลงไป ก็มีขาจรที่ซื้อครั้งละ 10 - 20 บาท แต่ก็ต้องจ่ายค่าเช่าที่เดือนละ 5,000 บาท"
ขณะทมี่แม่ค้าพ่อค้า สองสามีภรรยา ขายอุปกรณ์ป้องกัน COVID-19 กล่าวว่า ตอนนี้ได้รับผลกระทบหนักเพราะเเหล่งตลาดนัดที่เคยขายปิดเพราะมีการระบาดของ COVID-19 เขากับภรรยาจึงต้องขายเเบบเปิดท้าย รายได้ไม่ค่อยดีนัก อาจเพราะคนกังวลกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทำให้ช่วงนี้พวกเขาพยายามประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด จะเห็นได้ว่า หลายคนพยายามออกมาขายของเท่าที่จะขายได้หวังนำรายได้ไปประคองตัวเอง เเละหวังให้สถานการณ์กลับมาปกติ พร้อมขอให้รัฐเร่งคุ้มการระบาด COVID-19 ฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผนเพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้อีกครั้ง